แสง LED (Red Light Therapy) ไม่ใช่เพียงแค่แสงไฟที่คอยเอาไว้ให้ความสว่างเพียงเท่านั้น เป็น LED แสงสีแดงมีประโยชน์มากมายเกี่ยวกับผิวพรรณ ที่หลายคนอาจคาดไม่ถึง ในบทความนี้ APS Clinic จะพามารู้จักกับ LED แสงสีแดงแบบทุกซอกทุกมุม ว่ามีประโยชน์ยังไง และใครเหมาะกับการใช้แสงนี้เพื่อบำบัด

แสง LED แสงสีแดงคืออะไร?
LED ย่อมาจาก Light Emitting Diode คือการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้า ให้กลายเป็นแสงโดยการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดย LED แสงสีแดงนั้น จะมีความยาวของคลื่นแสงอยู่ที่ประมาณ 620-750 นาโนเมตร ข้อดีหลักๆเลยก็คือแสงที่มีความยาวอยู่ในช่วงนี้นั้น จะสามารถผ่านผิวหนังได้เป็นอย่างดี เมื่อเทียบกับช่วงแสงสีอื่นๆ เมื่อแสงซึมผ่านลงสู่ผิวหนังแล้วจึงทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาทางชีวภาพในระดับเซลล์ ซึ่งนั่นนับเป็นการบำบัด และดูแลผิวจากแสงดังกล่าวนั่นเอง
การทำงานของแสง LED แสงสีแดง
แสง LED แสงสีแดงจะซึมเข้าสู่ผิวและเข้าไปกระตุ้นการทำงานของ ไมโตคอนเดรีย (Mitochondria) ซึ่งจัดเป็นเหมือนกับ”โรงงานผลิตพลังงานของเซลล์” และเมื่อแสงสีแดง ซึมเข้าผ่านผิวหนัง ไปสู่เซลล์แล้ว LED แสงสีแดงก็จะเข้าไปเพิ่มการผลิต อะดีโนซีน ไตรฟอสเฟต (ATP) ซึ่งจัดเป็นพลังงานโมเลกุลหลักในการส่งเสริมให้เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเมื่อเซลล์ทำงานได้ดียิ่งขึ้นก็จะเกิดการซ่อมแซม และฟื้นฟูส่วนต่างๆของร่างกาย รวมถึงการลดการอักเสบในระดับเซลล์
ไม่เพียงเท่านั้น LED แสงสีแดง ยังช่วยในการเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้าง คอลลาเจน และ อีลาสติน ที่จัดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง อ่อนวัยอีกด้วย

ประโยชน์ด้านความงามของการฉายแสงสีแดง LED (Red Light Therapy)
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
LED แสงสีแดง (Red Light Therapy) จะเข้าไปกระตุ้นในการสร้าง คอลลาเจน และ อีลาสติน ในชั้นผิวหนัง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น เต่งตึงช่วยชะลอความแก่ และลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ เมื่อใช้ LED แสงสีแดงในการบำบัดเป็นประจำ
- ช่วยรักษาสิวและลดรอยแดงจากสิว
แสง LED สีแดง (Red Light Therapy) จะมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบของผิว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวอักเสบ นั่นเอง ไม่เพียงเท่านั้นแสง LED สีแดงยังช่วยลดรอยแดง รอยดำ ที่เกิดจากสิว ตัวการที่ทำให้ผิวหน้าดูไม่สม่ำเสมอให้มีความเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น
- ช่วยปรับปรุงสีผิวและความสม่ำเสมอของผิว
การใช้ LED แสงสีแดง (Red Light Therapy) อย่างต่อเนื่องจะช่วยปรับสีผิวโดยรวม ทำให้ดูสวยเปล่งปลั่ง สดใส และยังช่วยลดความหมองคล้ำ ลดเลือนจุดด่างดำและรอยคล้ำต่างๆ ที่เป็นปัญหาผิวที่กวนใจทำให้สีผิวมีความสม่ำเสมอและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
เมื่อผิวของคนเราได้รับการกระตุ้นด้วย LED แสงสีแดง (Red Light Therapy) จะทำให้การไหลเวียนของโลหิตดียิ่งขึ้นไม่เพียงเท่านั้นเซลล์ผิวต่างๆก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้เมื่อให้ผลิตภัณฑ์บำรุงในขณะที่ผิวดี และพร้อมเปิดรับผลิตภัณฑ์ต่างๆก็จะสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ทำให้เห็นผลลัพธ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น

ประโยชน์ด้านสุขภาพของการฉายแสงสีแดง LED (Red Light Therapy)
1. ช่วยลดอาการปวดและการอักเสบ
LED แสงสีแดงมีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดจึงมักนำไปใช้เพื่อรักษาอาการอักเสบและบรรเทาอาการปวด ทั้งปวดข้อ ปวดเข่า ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ รวมทั้งปวดจากข้ออักเสบ เป็นต้น LED แสงสีแดง จะช่วยในการลดการหลั่งสารอักเสบและเพิ่มการไหลเวียนโลหิตบริเวณที่มีอาการปวด ทั้งยังทำให้เนื้อเยื่อดังกล่าวได้รับออกซิเจนและสารอาหารมากขึ้นส่งผลให้มีกระบวนการฟื้นตัวที่เร็วขึ้น
2. ช่วยส่งเสริมการสมานแผล
ในผู้ที่มีบาดแผล LED แสงสีแดง จะช่วยในการสมานแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากจะเข้าไปช่วยในด้านการกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและเร่งกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ให้สมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นแผลผ่าตัด แผลเบาหวาน หรือแผลจากการบาดเจ็บต่างๆ LED แสงสีแดง ก็สามารถฟื้นฟูได้ทั้งสิ้น
3. ช่วยบำรุงสุขภาพช่องปากและเหงือก
LED แสงสีแดง ช่วยลดการอักเสบของเหงือกและกระตุ้นให้เกิดการฟื้นตัวของเนื้อเยื่อในช่องปากได้เป็นอย่างดี ในบางครั้งจึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใช้ในการรักษาโรคเกี่ยวกับเหงือกอักเสบและยังช่วยให้เหงือกแข็งแรงมากยิ่งขึ้นได้
4. ช่วยปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ
ช่วยในการกระตุ้นการผลิต เมลาโทนิน หากได้รับแสงในช่วงเย็น เมลาโทนินเป็นสารที่ช่วยในการควบคุมการนอนหลับได้เป็นอย่างดี ต่างจากแสงสีฟ้าที่เราได้รับจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นการใช้แสงสีแดงก่อนนอนจึงมีส่วนช่วยให้สามารถนอนหลับได้สนิทและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้นได้
5. ช่วยลดผมร่วงและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม
ในผู้ที่มีปัญหาผมร่วงหรือผมบาง LED แสงสีแดงจะช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตที่ทำหน้าที่ในการเลี้ยงหนังศีรษะรวมทั้งยังช่วยกระตุ้นรูขุมขนให้สร้างเส้นผมใหม่ได้ดีมากยิ่งขึ้นจึงมีส่วนช่วยให้เส้นผมที่งอกใหม่มีความแข็งแรงมีเส้นที่อวบอ้วนและหนาขึ้น

ข้อควรระวังในการฉายแสงสีแดง LED (Red Light Therapy)
แม้ว่าแสง LED สีแดงจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการ
- หากมีโรคประจำตัวหรือกำลังรับการรักษาอาการต่างๆ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนเริ่มใช้ LED แสงสีแดง
- ในผู้ที่มีปัญหาผิวหนังที่รุนแรง หรือกำลังใช้ยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสงควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลอย่างเคร่งครัด
- หลีกเลี่ยงการมอง LED แสงสีแดงโดยตรงควรใช้อุปกรณ์ป้องกันดวงตาสำหรับเครื่องโดยเฉพาะ หรือหลีกเลี่ยงการฉายแสงเข้าตาโดยตรง
- เพื่อผลลัพธ์ที่ดีจากการใช้ LED แสงสีแดงจึงจะต้องใช้เวลาที่เหมาะสมและความสม่ำเสมอในการเข้ารับบริการ

LED แสงสีแดง เป็นเทคโนโลยีในการบำบัด ทั้งช่วยดูแลสุขภาพและความงาม ด้วยกลไกการทำงานที่เข้าลึกถึงในระดับเซลล์ จึงช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ลดการอักเสบ และช่วยเร่งให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ จึงทำให้ LED แสงสีแดง เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์เกี่ยวกับการดูแลผิวในหลากหลายความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นในผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย รักษาสิว ลดอาการปวด หรือการอักเสบเป็นต้น

