การแยงโมลด์ หลังการผ่าตัดแปลงเพศ ช่วยอะไร ข้อเสียของการไม่ทำคืออะไร

คำว่าแยงโมลด์เป็นคำที่หากใครมีเพื่อนเป็นสาวข้ามเพศจะได้ยินกันบ่อยครั้ง จนในบางทีอาจเอาไปพูดคุยกันเป็นเรื่องขำขันในกลุ่มเพื่อน แต่ในความจริงแล้วการแยงโมลด์ ไม่ใช่แค่คำโจ๊กที่เอาไว้แหย่กัน แต่เป็นการกระทำที่สาวๆที่ผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงมาจะต้องทำทุกคน และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เรียกได้ว่าหากใครที่ไม่ทำตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ผู้ดูแลอย่างเคร่งครัด อาจทำให้ชีวิตเปลี่ยนได้เลยทีเดียว วันนี้ APS Clinic จะพาไปทำความรู้จักการแยงโมลด์อย่างเจาะลึกว่ามีความสำคัญอย่างไรกับผู้ผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง และสำคัญขนาดไหน

ทำไมต้อง “แยงโมลด์”? เรื่องที่หลายคนอาจสงสัย
การแยงโมลด์ คือวิธีการขยายช่องคลอดใหม่ที่ได้จากการผ่าตัดสร้างช่องคลอดนั่นเอง ซึ่งเมื่อช่องคลอดที่สร้างขึ้นนั้นไม่ใช่ช่องคลอดจากธรรมชาติเนื้อเยื่อที่อยู่ภายในช่องคลอดก็มีแนวโน้มที่จะเกิดการหดตัวและตีบตันลงได้ จึงควรดูแลอย่างถูกวิธีตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ เพื่อไม่ให้ช่องคลอดที่สร้างขึ้นจากการผ่าตัดเกิดการตื้นขึ้นหรือแคบลงมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกตินั่นเอง
ข้อดีของการแยงโมลด์
- การแยงโมลด์จะช่วยรักษารูปร่างและความกว้างของช่องคลอดได้เป็นอย่างดี เพื่อเป็นการป้องกันการหดตัวของเนื้อเยื่อจากช่องคลอดที่สร้างขึ้นมาใหม่
- การแยงโมลด์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการช่องคลอดจะตีบตัน ลดภาวะการผ่าตัดแก้ไขในอนาคต
- การแยงโมลด์จะช่วยทำให้ผนังช่องคลอดมีความยืดหยุ่นได้มากขึ้น
- การแยงโมลด์ทำให้การมีเพศสัมพันธ์ราบลื่นมากยิ่งขึ้น
- การแยงโมลด์ช่วยเพิ่มการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณช่องคลอดที่สร้างขึ้นมาใหม่ ทำให้แผลฟื้นตัวเร็วมากขึ้น
จึงควรแยงโมลด์อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ และด้วยวิธีที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบตามมาและเพื่อให้การผ่าตัดแปลงเพศเกิดผลลัพธ์ที่ดีตรงตามความต้องการมากที่สุด

ทำความรู้จัดอุปกรณ์ที่ใช้ในการแยงโมลด์
แท่งแยงโมลด์ หรือ Vaginal Dilator เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการแยงโมลด์ จะมีลักษณะเป็นแท่งยาวกลมเรียบ ทำขึ้นมาจากวัสดุทางการแพทย์ที่มีความปลอดภัย อาทิ ซิลิโคนที่ใช้ทางการแพทย์ หรือพลาสติกเกรดการแพทย์
ปกติแล้วแท่งแยงโมลด์จะมีให้เลือกหลากหลายขนาดและความยาว เพื่อให้เหมาะกับระยะของการฟื้นตัวของการผ่าตัดแปลงเพศที่สุด อีกทั้งในคนไข้ผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงแต่ละคนจะมีขนาดของช่องคลอดที่ต่างกันไป แท่งแยงโมลด์จึงต้องมีขนาดมากพอที่จะรองรับ
ชุดแท่งแยงโมลด์มาตรฐานจะประกอบไปด้วย
- แท่งแยงโมลด์ขนาดเล็กที่สุดเป็นขนาดที่จะใช้ในช่วงเริ่มต้นหลังการผ่าตัด
- แท่งแยงโมลด์ขนาดกลางเป็นขนาดที่จะใช้เมื่อช่องคลอดเริ่มขยายตัวมากขึ้นและมีความยืดหยุ่นได้มากขึ้นในระยะหนึ่ง
- แท่งแยงโมลด์ขนาดใหญ่เป็นขนาดที่จะใช้เมื่อช่องคลอดยืดหยุ่นและคงที่
- แท่งแยงโมลด์ขนาดใหญ่ที่สุดจะถูกใช้เมื่อช่องคลอดคงตัวและพร้อมสำหรับการใช้งานปกติ
ศัลยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำขนาดของแท่งแยงโมลด์ที่มีความเหมาะสมกับคนไข้ผู้เข้ารับบริการ รวมถึงวิธีการทำความสะอาดเริ่มต้น – หลังใช้ รวมทั้งวิธีเก็บอย่างละเอียด โดยควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ขั้นตอนการแยงโมลด์
1. การเตรียมความพร้อม
- ก่อนทำการแยงโมลด์ควรล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำอุ่นทุกครั้ง ทั้งก่อนและหลังการแยงโมลด์
- ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศด้วยสบู่ที่มีความอ่อนโยนและน้ำสะอาด จากนั้นซับให้แห้งก่อนทำการแยงโมลด์
- ล้างแท่งแยงโมลด์เพื่อเป็นการทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำอุ่น
- เช็ดหรือผึ่งแท่งแยงโมลด์ให้แห้งสนิทก่อนใช้งาน
- เลือกห้องที่ปลอดภัยและมีความเป็นส่วนตัวเพื่อทำการแยงโมลด์
- เตรียมสารหล่อลื่นให้พร้อมสำหรับการแยงโมอ หากไม่มีอาจจะเจ็บในขณะทำได้
2.การสอดแท่งแยงโมลด์
- เริ่มต้นด้วยแท่งแยงโมลด์ขนาดเล็ก ในผู้ที่พึ่งทำการผ่าตัดเสร็จใหม่ๆ ตามที่ศัลยแพทย์แนะนำ
- ค่อยๆ สอดแท่งแยงโมลด์เข้าไปในช่องคลอดช้าๆเป็นจังหวะ ไม่ต้องรีบ และมีความนุ่มนวล
- ถือให้แท่งแยงโมลด์ทำมุมที่เหมาะสมกับช่องคลอดคือมุมเฉียงเล็กน้อยไปทางก้นกบ
- ค่อยๆ ดันแท่งแยงโมลด์เข้าไปจนสุดความลึกของช่องคลอดที่สามารถทำได้ โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดมากเกินไป
- เมื่อสอดแท่งแยงโมลด์เข้าไปจนสุดแล้ว ให้คงค้างแท่งแยงโมลด์เอาไว้ตามระยะเวลาที่ศัลยแพทย์กำหนด (โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 30-60 นาที)
- ในขณะที่คงค้างแท่งแยงโมลด์เอาไว้ สามารถหมุนแท่งแยงโมเบาๆ หรือขยับขึ้นลงเล็กน้อยเพื่อช่วยยืดผนังช่องคลอด
3. การถอนและการทำความสะอาด
- เมื่อครบเวลาที่ศัลยแพทย์กำหนดแล้ว ค่อยๆ ถอนแท่งแยงโมลด์ออกช้าๆอย่างระมัดระวัง
- ทำความสะอาดแท่งแยงโมลด์ด้วยสบู่และน้ำอุ่นให้สะอาดอีกครั้ง เช็ดให้แห้งสนิท และเก็บในภาชนะที่สะอาดและแห้ง ไม่อับชื้น
ทั้งนี้ขนาดของแท่งแยงโมลด์จะเปลี่ยนไปตามลำดับตามช่องคลอดที่ถูกขยาย โดยจะเปลี่ยนขนาดของแท่งแยงโมลด์ได้ต่อเมื่อศัลยแพทย์มีความเห็นให้เพิ่มขนาด

ความถี่ในการแยงโมลด์
ความถี่ห่างในระยะเวลาของการแยงโมลด์ ในแต่ละบุคคลจะมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคของการผ่าตัดแปลงเพศ การตอบสนองของร่างกาย เป็นต้น โดยทั่วไป ความถี่ในการแยงโมลด์จะเป็นตามนี้
- ช่วง 1-3 เดือนแรกหลังผ่าตัด จะแยงโมลด์ วันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30-60 นาที
เนื่องจากเป็นช่วงแรกหลังการผ่าตัดแปลงเพศจึงมีความสำคัญที่สุด ทำให้ต้องแยงโมลด์บ่อยที่สุด
- ช่วง 3-6 เดือนหลังผ่าตัดจะแยงโมลด์ วันละ 1-2 ครั้ง ครั้งละ 30-60 นาที
จะค่อยๆ ลดความถี่ลง เนื่องจากช่องคลอดเริ่มฟื้นตัวและคงสภาพได้ดีขึ้น
- ช่วง 6 เดือน – 1 ปีหลังผ่าตัด จะแยงโมลด์วันละครั้ง หรือวันเว้นวัน ครั้งละ 30-60 นาที
โดยความถี่จะลดลงเนื่องจากช่องคลอดจะเริ่มคงที่ตามปกติ
- หลังจาก 1 ปีขึ้นไป การแยงโมลด์จะเหลือเพียงสัปดาห์ละ 1-3 ครั้ง
หรือตามความจำเป็น จะขึ้นอยู่กับการใช้งานช่องคลอด เช่น การมีเพศสัมพันธ์ และคำแนะนำของศัลแพทย์ด้วย
การติดตามผลกับศัลยแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการประเมินช่องคลอดทั้งความลึก ความกว้าง ความสวยงาม และสภาพโดยรวม เพื่อปรับแผนการแยงโมลด์ให้เหมาะสม และให้คำแนะนำเพิ่มเติมเป็นเรื่องดีที่ความทำตามอย่างเคร่งครัด
สิ่งที่อาจเกิดได้จากการแยงโมลด์
- ความเจ็บปวดจากการแยงโมลด์จะรู้สึกได้ในช่วงแรกหลังการผ่าตัดแปลงเพศ จึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวด ระคายเคือง หรือไม่สบายช่องคลอดได้เป็นเรื่องปกติ การใช้สารหล่อลื่นให้เพียงพอในการแยงโมลด์ การผ่อนคลายร่างกาย และการหายใจที่ถูกต้องจะช่วยลดอาการเจ็บ ปวดดังกล่าวได้ หากเจ็บปวดอย่างรุนแรง ควรปรึกษาศัลยแพทย์
- อาจมีเลือดออกเล็กน้อยในช่วงแรกของการแยงโมลด์ อาการนี้เป็นอาการปกติแต่หากมีเลือดออกมาก ผิดปกติ หรือเลือดออกอย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาศัลยแพทย์ทันที
- การแยงโมลด์อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจได้ การพูดคุยกับศัลยแพทย์ผู้ดูแล นักจิตวิทยา หรือกลุ่มสนับสนุนผู้แปลงเพศสามารถช่วยให้ผ่อนคลายขึ้นได้
- ในการแยงโมลด์หากไม่รักษาความสะอาด ตามคำแนะนำด้านบน จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ควรสังเกตอาการ เช่น ปวด บวม แดง มีไข้ หรือมีหนอง หากมีอาการดังกล่าวควรปรึกษาศัลยแพทย์อย่างเร่งด่วน
- หากไม่ได้รับการแยงโมลด์อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของศัลยแพทย์ ช่องคลอดจากการผ่าตัดแปลงเพศอาจตีบตันได้ลงได้

การแยงโมลด์จะมีประสิทธิภาพมาขึ้น หากปฏิบัติตัวดังนี้
- ฝึกความความอดทน ผ่อนคลาย และความสม่ำเสมอ ในการแยงโมลด์ เนื่องจากผลลัพธ์จากการแปลงเพศที่ดีนั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน
- กำหนดเวลาที่แน่นอนในการแยงโมลด์แต่ละวันอย่างแน่นอน เพื่อให้การแยงโมลด์กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน
- ฟังเพลงหรือดูหนังให้ผ่อนคลายและเพลิดเพลินมากขึ้นในระหว่างการแยงโมลด์
- แจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบทุกครั้งที่มีปัญหา ข้อสงสัย หรือความกังวล
- เมื่อช่องคลอดหายดีแล้ว การมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอจะสามารถช่วยรักษาความลึกและความกว้างของช่องคลอดได้ ทำให้ไม่ต้องแยงโมลด์มากเท่าเดิมแล้ว แต่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ควรปรึกษาศัลยแพทย์ก่อน
การแยงโมลด์หลังผ่าตัดแปลงเพศนับเป็นส่วนสำคัญที่จำเป็นต้องทำอย่างเคร่งครัดในการฟื้นตัวหลังการผ่าตัดแปลงเพศ อาจจะเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนและวินัยเป็นอย่างมากในบางคน แต่การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้ผลลัพธ์หลังการผ่าตัดแปลงเพศมีตรงตามความต้องการได้อย่างยั่งยืน และนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว

