การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแปลงเพศมีอะไรบ้าง แต่ละเทคนิคต้องเตรียมตัวอย่างไร?

การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงมีหลายเทคนิคให้เลือก แต่ละวิธีก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป การเตรียมตัวเพื่อผ่าตัดแปลงเพศแต่ละวิธีก็เช่นกัน ที่อาจจะมีทั้งความเหมือน และความต่างกันบ้างในบางกรณี แต่ไม่ว่าจะต้องเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแปลงเพศอย่างไร ข้อสำคัญคือการปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทั้งในระหว่างกว่าผ่าตัด และหลังการผ่าตัดแปลงเพศ

ทำความเข้าใจกับวิธีเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดแปลงเพศได้ที่บทความนี้

ก่อนการผ่าตัดแปลงเพศ
ก่อนการผ่าตัดแปลงเพศ

ทำความรู้จักการผ่าตัดแปลงเพศแต่ละเทคนิค

การแปลงเพศชายเป็นหญิง คือการผ่าตัดสร้างอวัยวะเพศหญิงและช่องคลอด ซึ่งมีเทคนิคที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะการเลือกใช้เนื้อเยื่อในการสร้างช่องคลอดและวิธีการ ดังนี้

เทคนิคต่อกราฟ (Skin graft vaginoplasty for Gender Affirming Surgery ) 

เทคนิคการผ่าตัดแปลงเพศโดยการ ใช้ผิวหนังของอวัยวะเพศเดิม เช่น องคชาตและถุงอัณฑะ มาสร้างช่องคลอดใหม่ โดยวิธีการใช้ผิวหนังเดิมของอวัยวะเพศชายมาสร้างเป็นช่องคลอด และใช้ผิวหนังของถุงอัณฑะมาสร้างเป็นแคมใหญ่ (Labia Majora) วิธีนี้จะให้ผลลัพธ์หลังจากผ่าตัดแปลงเพศ  มีความลึกตามขนาดของผิวหนังของอัวยะเพศเดิม ตามความเหมาะสม

  • เป็นการผ่าตัดแปลงเพศที่ใช้เนื้อเยื่อของตนเอง: ทำให้เนื้อเยื่อเข้ากันได้ดีกับร่างกาย
  • ลดความเสี่ยง: ไม่ต้องทำการผ่าตัดในช่องท้องเหมือนเทคนิคอื่นๆ
  • เป็นเทคนิคที่ทำมานาน: คนไข้เข้าใจในวิธีการและผลลัพธ์มาก่อนอยู่แล้ว

 

เทคนิคต่อลำไส้ (Colon Vaginoplasty)

เทคนิค ต่อลำไส้ เป็นหนึ่งเทคนิคการสร้างช่องคลอดใหม่ (Neovagina) โดยการใช้เนื้อเยื่อบางส่วนจากลำไส้ของคนไข้ผู้เข้ารับบริการในการทำเป็นช่องคลอดโดยศัลยแพทย์จะนำเนื้อเยื่อจากลำไส้ใหญ่ส่วนท้ายมาสร้างเป็นช่องคลอด  วิธีการคือนำลำไส้ใหญ่ที่มีความยาวประมาณ 7-8 นิ้ว มาสร้างเป็นผนังช่องคลอดซึ่งจะให้ความรู้สึกได้เหมือนกับเป็นผนังช่องคลอดธรรมชาติ  ข้อดีของเทคนิคต่อลำไส้คือให้ช่องคลอดที่มีความลึกได้มาก และยังมีน้ำหล่อลื่นออกมาตามธรรมชาติ จึงไม่ต้องใช้สารหล่อลื่นมากนัก

เป็นเทคนิคการผ่าตัดแปลงเพศที่สามารถแก้ปัญหาช่องคลอดตีบตันหรือในกรณีที่คนไข้ผู้เข้ารับบริการต้องการเพิ่มความลึกของช่องคลอดเพิ่มจากเดิมได้เป็นอย่างดี สามารถผ่าตัดได้ทั้งแบบเปิดแผลหน้าท้องและแบบส่องกล้อง

เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะภายในช่องท้อง การเตรียมตัวจึงมากกว่าปกติ และต้องเตรียมตัวอย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดี

 

เทคนิคต่อเยื่อบุช่องท้อง (Peritoneum Vaginoplasty PPV)

แปลงเพศเทคนิค ต่อเยื่อบุช่องท้อง เป็นวิธีการผ่าตัดที่ศัลยแพทย์จะใช้เยื่อบุผิวภายในช่องท้อง (Peritoneum)ในการสร้างช่องคลอดใหม่ (Neovagina) โดยศัลยแพทย์จะใช้เทคนิคการส่องกล้อง (Laparoscopy) เพื่อนำเยื่อบุช่องท้องมาสร้างเป็นท่อช่องคลอด ซึ่งข้อดีของการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคนี้คือให้ช่องคลอดที่มีความลึกและมีน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติ ทั้งยังช่วยลดการหดสั้นลงในระยะยาวของช่องคลอดได้อีกด้วย

 

เทคนิค Zero Depth Vaginoplasty 

การแปลงเพศเทคนิค Zero Depth Vaginoplasty เป็นการผ่าตัดสร้างอวัยวะเพศหญิงภายนอก เช่น อวัยวะเพศ, แคมใหญ่, แคมเล็ก, และคลิตอริส โดยใช้ผิวหนังเดิมจากองคชาตและถุงอัณฑะ เท่านั้นโดยไม่มีการสร้างช่องคลอดภายใน นั่นหมายความว่าหลังการผ่าตัด คนไข้ผู้เข้ารับบริการจะไม่มีช่องคลอดที่ต้องขยาย (Dilation) หรือจะต้องดูแลในลักษณะเดียวกับการผ่าตัดสร้างช่องคลอดเทคนิคอื่นๆ

ข้อดีของเทคนิคการแปลงเพศเทคนิคนี้คือ

  • การผ่าตัดไม่ซับซ้อนเท่าเทคนิคอื่นๆ: ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการสร้างช่องคลอด
  • ใช้ระยะเวลาพักฟื้นสั้น: ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วกว่า
  • ไม่ต้องขยายช่องคลอดหลังผ่าตัด: ลดภาระในการดูแลตนเองหลังการผ่าตัดในระยะยาว

 

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแปลงเพศ

สำหรับการการเตรียมตัวก่อนผ่าตัดแปลงเพศนั้นจะมีความเหมือนกันทุกเทคนิค แต่งต่างกันตรงกระบวนการผ่าตัดเท่านั้น

ไม่ว่าจะเข้ารับบริการผ่าตัดแปลงเพศด้วยใช้เทคนิคใดก็ตาม การเตรียมตัวเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีและตรงตามต้องการที่มองข้ามไม่ได้คือการเตรียมตัวเหล่านี้

  • การจัดการยาและอาหารเสริม แจ้งศัลยแพทย์ผู้ดูแลเกี่ยวกับแพทย์เกี่ยวกับยา อาหารเสริม หรือวิตามินทุกชนิดที่คุณใช้ และปฏิบัติตามคำแนะนำเรื่องการหยุดยาตามกำหนดเวลา
  • แจ้งข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ในขั้นตอนการปรึกษาศัลยแพทย์ควรแจ้งข้อมูลจริงที่ถูกต้องเพื่อประกอบการตัดสินใจในการวินิจฉัย
  • นอนพักผ่อน นอนหลับพักผ่อนให้มากเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัด
เข้ารับการปรึกษากับคุณหมอก่อนทำการผ่าตัดแปลงเพศ
เข้ารับการปรึกษากับคุณหมอก่อนทำการผ่าตัดแปลงเพศ
  • เข้ารับการปรึกษากับคุณหมอก่อนทำการผ่าตัดแปลงเพศ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนในการผ่าตัดแปลงเพศและเลือกเทคนิคที่ใช้ในการผ่าตัด เนื่องจากการผ่าตัดแปลงเพศมีหลายเทคนิค เช่น เทคนิคต่อกราฟ  เทคนิคต่อลำไส้ เป็นต้น
การประเมินทางจิตใจเพื่อขอใบรับรองแพทย์
การประเมินทางจิตใจเพื่อขอใบรับรองแพทย์
  • การประเมินทางจิตใจเพื่อขอใบรับรองแพทย์ คนไข้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านจะต้องผ่านการประเมินจากจิตแพทย์ อย่างครบถ้วนทุกขั้นตอนจนได้รับเอกสารที่ใช้ยืนยันว่า คนไข้มีอัตลักษณ์ทางเพศที่สอดคล้องกับเพศหญิง และมีความพร้อมทางจิตใจในการเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ และเป็นไปตามแนวทางมาตรฐานของ WPATH (World Professional Association for Transgender Health) มายื่นให้กับศัลยแพทย์ที่เป็นผู้ผ่าตัดแปลงเพศในวันปรึกษาและผ่าตัด
ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด
ตรวจสุขภาพอย่างละเอียด
  • ตรวจสุขภาพ อย่างละเอียดเพื่อเป็นการช่วยประเมินความเสี่ยง เช่น โรคประจำตัว ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หรือภาวะดื้อยาสลบ เพื่อความปลอดภัยในการผ่าตัด การตรวจจะรวมถึงการตรวจเลือด ปอด หัวใจ และระดับฮอร์โมน
วางแผนเรื่องการพักฟื้น
วางแผนเรื่องการพักฟื้น
  • วางแผนเรื่องการพักฟื้น การผ่าตัดแปลงเพศเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องใช้เวลาพักฟื้น ค้อนข้างนาน ซึ่งระยะเวลาในการพักฟื้นของแต่ละบุคคล อาจจะมีความแตกต่างกัน จึงควรจัดสรรเวลาเพื่อพักฟื้นได้อย่างเต็มที่ เช่น หยุดงาน วางแผนที่พัก ดูแลอาหาร และหาผู้ช่วยดูแลในช่วงพักฟื้น
เตรียมร่างกายให้พร้อมในการผ่าตัด
เตรียมร่างกายให้พร้อมในการผ่าตัด
  • เตรียมร่างกายให้พร้อมในการผ่าตัด โดยควรมี BMI และน้ำหนักที่อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงระหว่างการดมยาสลบและการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลติดเชื้อ หายช้า หรือปัญหาระบบหายใจ ผู้ที่มี BMI สูงเกินไปอาจต้องทำการลดน้ำหนักก่อนที่ตัดผ่าตัดแปลงเพศ
งดทานฮอร์โมน
งดทานฮอร์โมน
  • งดทานฮอร์โมน การรับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่อเนื่องจะเพิ่มความเสี่ยงของภาวะลิ่มเลือดอุดตัน แพทย์จึงแนะนำให้งดฮอร์โมนอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดเพื่อความปลอดภัยของระบบไหลเวียนเลือดขณะดมยาสลบ
งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์  
งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์  เนื่องจากการสูบบุหรี่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการไหลเวียนของเลือด ส่งผลต่อการสมานแผล และระบบภูมิคุ้มกัน การงดก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ จะช่วยลดโอกาสแผลติดเชื้อ แผลหายช้า และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
งดทานผัก ผลไม้ และกลุ่มอาหารที่กระตุ้นเรื่องการขับถ่ายก่อนผ่าตัด 7 วัน
งดทานผัก ผลไม้ และกลุ่มอาหารที่กระตุ้นเรื่องการขับถ่ายก่อนผ่าตัด 7 วัน
  • งดทานผัก ผลไม้ และกลุ่มอาหารที่กระตุ้นเรื่องการขับถ่ายก่อนผ่าตัด 7 วัน ก่อนผ่าตัดแปลงเพศ การควบคุมระบบขับถ่ายให้สะอาดและนิ่งที่สุดจะช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และช่วยให้ลำไส้พร้อมสำหรับการนำมาสร้างช่องคลอดใหม่ได้อย่างปลอดภัย
ทานยาล้างลำไส้
ทานยาล้างลำไส้
  • ทานยาล้างลำไส้ ก่อนผ่าตัดแปลงเพศ แพทย์จะให้ทานยาล้างลำไส้ก่อนวันผ่าตัด 1 วัน เพื่อให้ลำไส้สะอาด ลดแบคทีเรียและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อภายในช่องท้อง
โกนขนบริเวณอวัยวะเพศ
โกนขนบริเวณอวัยวะเพศ
  • โกนขนบริเวณอวัยวะเพศ ขนที่บริเวณอวัยวะเพศอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค การโกนขนจะช่วยให้บริเวณที่จะผ่าตัดสะอาด ลดโอกาสติดเชื้อ และช่วยให้แผลผ่าตัดเรียบร้อยขึ้น
งดน้ำ - งดอาหารก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง
งดน้ำ – งดอาหารก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง
  • งดน้ำ – งดอาหารก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของการสำลักอาหารขณะดมยาสลบ แพทย์จะให้ผู้ป่วยงดน้ำและงดทานอาหารทุกชนิดก่อนผ่าตัด 8 ชั่วโมง เพราะหากมีอาหารในกระเพาะอาจไหลย้อนเข้าปอด อาจทำให้เกิดอันตรายระหว่างการผ่าตัดได้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตัวคนไข้

 

ไม่ว่าจะตัดสินใจเลือกผ่าตัดแปลงเพศด้วยเทคนิคใดก็ตาม การเตรียมตัวอย่างถูกต้องและครบถ้วนคือสิ่งสำคัญที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและยังไม่อันตรายหลังกานผ่าตัดแปลงเพศ

การทำความเข้าใจข้อดีข้อเสีย รวมถึงข้อจำกัดของแต่ละเทคนิค จะช่วยให้สามารถวางแผนการเตรียมตัวและดูแลตัวเองได้อย่างเหมาะสม

นอกจากการเตรียมร่างกายให้พร้อมตามคำแนะนำของศัลยแพทย์แล้ว การเตรียมความพร้อมทางจิตใจก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการเดินทางสู่การเป็นตัวตนที่สมบูรณ์แบบนั้น ไม่ได้สิ้นสุดที่ห้องผ่าตัด แต่ยังรวมถึงการปรับตัวและการดูแลตัวเองในระยะยาวอีกด้วย

การร่วมมืออย่างเต็มที่กับทีมแพทย์ ทั้งในขั้นตอนการประเมิน การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด และการดูแลหลังผ่าตัด คือลำกับขั้นตอนที่จะพาไปสู่ความงามและการเป็นตัวเองในแบบที่ยั่งยืน และความมั่นใจ เพื่อให้การเดินทางชีวิตหลังจากนี้สามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่

» Switch Languages