ผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) หนึ่งทางเลือกการเป็นคนใหม่อย่างมั่นใจ

ผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)

 

การแปลงเพศจากชายเป็นหญิง หนึ่งในการแปลงเพศที่ประเทศไทยได้รับความสนใจจากนานาชาติทั่วโลก เพราะการแปลงเพศที่ไทยไม่ใช่เพียงการตัดของเดิมออกไปให้จบๆ แต่การแปลงเพศในประเทศไทยนั้นนับเป็นงานฝีมือหนึ่งชิ้น ที่กว่าจะออกมาได้แต่ละเคส แพทย์จะต้องทำความเข้าใจกับตัวบุคคล การใช้ชีวิต และความต้องการของเขา เพื่อทำการผ่าตัด ตกแต่งให้ผลลัพธ์ออกมาได้เป็นอย่างดีสวยงามตรงกับความต้องการของคนไข้และสามารถ ใช้งานได้จริง 

การแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ก็จัดเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการแปลงเพศที่ได้รับความนิยมอย่างหลากหลาย ให้ความสวยงาม และสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยไม่ส่งผลเสียกับโครงสร้างหรือสรีระร่างกายเดิม ที่สำคัญการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ยังสามารถตอบสนองทางเพศได้เป็นอย่างดีทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การดูแลและลงมือผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางเท่านั้น

 

การแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) เป็นเทคนิคการแปลงเพศโดยการที่ศัลยแพทย์จะใช้ส่วนของผิวหนังบางส่วนจากอวัยวะเพศเดิมของคนไข้ผู้เข้ารับบริการ เพื่อนำมาใช้สร้าง”neovagina” หรือ ช่องคลอดใหม่ นั่นเอง  ศัลยแพทย์จะทำการเก็บผิวหนังบริเวณดังกล่าว เพื่อนำมาสร้างเป็นช่องคลอดและทำให้เกิดรูปร่างของอวัยเพศ และความลึกที่มีส่วนต่อการใช้งานที่เหมาะสม ไม่เพียงเท่านั้น ในบางกรณีศัลยแพทย์จะยังต้องยังเชื่อมต่อเส้นประสาทบางส่วนเพิ่มเติมเพื่อให้คนไข้ผู้เข้ารับบริการสามารถมีความรู้สึกได้เป็นอย่างดีในขณะมีเพศสัมพันธ์ด้วย

การผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) 

เริ่มต้นการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) จากการที่ศัลยแพทย์จะวางแผนการผ่าตัดออกแบบรูปทรงตามความต้องการของคนไข้ทำความสะอาดให้เรียบร้อยและเริ่มการผ่าตัด อัณฑะออก จัดวางเนื้อเยื่อองคชาต เพื่อใช้ในการสร้างคลิตอริสขึ้นมาใหม่ จากนั้นสร้าง โพรงช่องคลอดเพื่อเป็นการเพิ่มความลึกรวมทั้งยังเป็นการสร้างผนังช่องคลอดขึ้นมาใหม่ 

 

ก่อนผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)

• ตรวจเข้ารับการสุขภาพโดยละเอียดตรวจเลือด, คลื่นหัวใจ, เอกซเรย์ปอด, ตรวจฮอร์โมน
• เข้าพบจิตแพทย์ และได้รับใบรับรองแพทย์จากจิตแพทย์ 2 ท่าน ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
• งดรับประทานอาหารและดื่มน้ำ 8 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ
• งดรับประทานฮอร์โมน 1 เดือน ก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
• รับทานยาล้างลำไส้ตามที่ศัลยแพทย์แนะนำ
• งดรับประทานผัก ผลไม้และกลุ่มอาหารที่ช่วยกระตุ้นในเรื่องการขับถ่าย 7 วันก่อนเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)
• งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการ าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)
• คนไข้ผู้เข้ารับบริการจะต้องมีน้ำหนักตัวไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานตามที่ศัลยแพทย์แนะนำถ้ามีไขมันสะสมมากอาจทำให้เกิดปัญหาระหว่างการผ่าตัดแปลงเพศ
• โกนขนบริเวณอวัยวะเพศ และบริเวณขาหนีบก่อนผ่าตัด 1 วัน

การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft )

1. การดูแลแผลผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft )

หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)  คนไข้ผู้เข้ารับบริการจะมีแผลบริเวณที่สร้างช่องคลอด บริเวณอวัยวะเพศใหม่ และจุดที่ทำการเก็บผิวหนัง ตามที่ตกลงร่วมกันตอนแรก จึงต้องดูแลเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ หรือเกิดการอักเสบได้

 

วิธีการดูแลแผลแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) 

• ทำความสะอาดแผลจากการแปลงเพศอย่างละเอียด้วยน้ำเกลือปลอดเชื้อ 
• ควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
• ซับแผลให้แห้งด้วยผ้าสะอาด (ควรมั่นใจว่าสะอาดจริง) หรือผ้าก๊อซปลอดเชื้อ 
• ห้ามเช็ดแผลจากการแปลงเพศแรง และห้ามถูเด็ดขาด
• เปลี่ยนผ้าปิดแผลตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัดทุกวัน โดยปกติควรเปลี่ยนวันละ 1-2 ครั้ง
• หลีกเลี่ยงการทำให้แผลเกิดการอับชื้น อาทิเช่น งดการใส่กางเกงรัดรูป งดนั่งแช่น้ำ เข้าห้องน้ำควรเช็ด ซับให้แห้งทุกครั้ง
• หากมีอาการผิดปกติที่บริเวณแผล เช่นอาการ บวม แดง แสบร้อน หรือมีหนองที่แผล ควรพบศัลยแพทย์ผู้ดูแลทันที

 

2. การขยายช่องคลอดแยงโมลด์ (Vaginal Dilation) สำหรับการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) 

การขยายช่องคลอดหลังการแปลงเพศ นับเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการดูแล เพราะช่องคลอดที่สร้างขึ้นมาใหม่นั้นโอกาสปิดตัวลงได้ หากคนไข้ผู้เข้ารับบริการไม่ได้ทำการการขยายช่องคลอดอย่างสม่ำเสมอ

 

วิธีขยายช่องคลอดสำหรับการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) 

• ให้ใช้ dilator ตามขนาด เริ่มตั้งแต่ขนาดเล็กก่อนและค่อย ๆ ปรับเพิ่มขนาดให้ใหญ่ขึ้นตามลำดับ เพื่อให้ปรับตัว
• ควรทำการขยายช่องคลอดเป็นประจำวันละ 1-2 ครั้ง ใช้เวลาครั้งละ 15-30 นาที ควรทำอย่างเคร่งครัดโดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกหลังเข้ารับผ่าตัดการแปลงเพศเทคนิค Skin Graft 
• ทำการขยายช่องคลอดในท่าที่สะดวก ไม่ลำบาก เช่น นอนราบ งอเข่า สามารถเลือกได้ตามความพึงพอใจ และใช้สารหล่อลื่นทุกครั้งก่อนใส่ dilator
• ไม่ควรใช้วิธีการเร่งรัดหรือออกแรงมากเกินไป ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องรีบ หากรู้สึกเจ็บในเวลาทำการขยายช่องคลอด ควรหยุดทันทีและปรึกษาศัลยแพทย์ผู้ดูแล

ทั้งนี้การขยายช่องคลอดหลังทำการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ควรทำอย่างต่อเนื่องติดกันเป็นประจำอย่างน้อย 1 ปี หรือจนกว่าจะรู้สึกได้ว่าช่องคลอดคงรูปร่างและมีความลึกตามที่ศัลยแพทย์ประเมินว่าเพียงพอแล้วต่อการดำเนินชีวิตประจำวันแล้ว

 

3. การดูแลสุขอนามัยของช่องคลอดใหม่หลังการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft )

แม้ว่าการแปลงเพศจะเป็นการสร้างช่องคลอดขึ้นมาใหม่จะไม่มีเยื่อบุแบบธรรมชาติ แต่ก็ยังสามารถเกิดการติดเชื้อหรือระคายเคืองได้เช่นกันจึงควรดูแลอย่างเคร่งครัดดังนี้

• ล้างทำความสะอาดภายนอกด้วยน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้สายยาง หรือที่ฉีดในการสวนล้าง
• หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเข้มข้น ควรผสมให้เจือจางก่อนใช้
• ซับน้ำให้แห้งหลังอาบน้ำ ไม่ควรให้ช่องคลอดใหม่มีความชื้น
• ควรเปลี่ยนชุดชั้นในทุกวันเพื่อความสะอาด และลดการอับชื้น
• หากมีกลิ่นผิดปกติหรือมีของเหลวขุ่นออกมาจากช่องคลอด ควรพบศัลยแพทย์ผู้ดูแลเพื่อตรวจภายในอย่างละเอียด

4. การงดกิจกรรมที่มีแรงกระแทกหลังการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft )

หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ในช่วง 2-3 เดือนแรก ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ส่งผลกระทบ หรือสร้างความกระทบกระเทือนต่อแผลผ่าตัดเช่น 

• หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ควรงดการมีเพศสัมพันธ์
• หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) งดการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทก เช่น วิ่งหรือยกเวท
• หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ควรงดการนั่งนานหรือนั่งไขว่ห้าง
• หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ควรงดการขี่จักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซค์

และควรพักผ่อนอย่างเพียงพอ ลุกเดินเบา ๆ บ่อยๆในห้อง วิธีนี้จะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีมากขึ้นทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการอุดตันของลิ่มเลือด

 

5. การรับประทานยาและติดตามผลกับแพทย์

• ควรรับประทานยาปฏิชีวนะและยาแก้ปวดตามที่ศัลยแพทย์ให้จนครบหลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft )
• งดการใช้ยาแอสไพรินหรือยาสมุนไพรที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือดหากต้องใช้ควรปรึกษาศัลยแพทย์ผู้ดูแลก่อนทุกครั้ง
  เข้าพบศัลยแพทย์ผู้ดูแลตามนัดทุกครั้งเพื่อประเมินผลอาการฟื้นตัวต่างๆ เช่น ตรวจแผล วัดความลึกช่องคลอด และปรับแผนขยาย dilator
• หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) หากพบอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดออกมาก ปัสสาวะลำบาก มีหนองออกผิดปกติ มีน้ำขาวขุน มีอาการเจ็บปวด หรือมีไข้ ควรติดต่อศัลยแพทย์ผู้ดูแลทันที

6. การดูแลสุขภาพจิตและอารมณ์หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft )

หลังการผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) อาจมีอะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล หรือทำให้รู้สึกไม่มีความมั่นใจในร่างกายที่เปลี่ยนไปของตัวเอง การเข้ารับคำปรึกษาจากนักจิตวิทยา รวมทั้งกลุ่มสนับสนุนผู้แปลงเพศจะช่วยให้ผ่านช่วงฟื้นตัวได้ดีขึ้นได้ แต่อาการเหล่านี้จะไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนที่เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ

ผลลัพธ์ที่ได้จากการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)

การแปลงเพศด้วยเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) จะให้ผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพึงพอใจได้ทั้งในด้านความลึก ความชุ่มชื้นของช่องคลอด และในด้านของความรู้สึก เนื่องจากช่องคลอดที่ได้ทำการสร้างขึ้นมาใหม่จะมีรูปร่างที่มีความใกล้เคียงกันกับอวัยวะของเพศหญิงตามธรรมชาติ การแปลงเพศด้วยเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) จะสามารถมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดได้ตามปกติ และในบางรายจะสามารถถึงจุดสุดยอดได้หากมีการเชื่อมต่อเส้นประสาทอย่างเหมาะสมจากศัลยแพทย์ที่มีความรู้ อีกทั้งการรักษาความชุ่มชื้นของช่องคลอดที่ทำด้วยเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) จะขึ้นอยู่กับเทคนิคที่แพทย์เลือกใช้รวมทั้งการดูแลตนเองของผู้ป่วย การเลือกใช้เทคนิคต่อกราฟ ในบริเวณที่มีต่อมเหงื่อมาก จะช่วยให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวมีคุณสมบัติคล้ายเยื่อเมือกของช่องคลอดตามธรรมชาติ จึงทำให้ลดโอกาสเกิดการแห้งหรือระคายเคืองของช่องคลอดได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ คนไข้ผู้เข้ารับบริการจะสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังจากการฟื้นตัวสมบูรณ์ประมาณ 1 ปี

 

ข้อควรระวังและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหลังทำการแปลงเพศด้วยเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft )

ทุกการผ่าตัดทำศัลยกรรมมีความเสี่ยงเสมอ และยิงเป็นการแปลงเพศด้วยเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ด้วยแล้ว จึงเปรียบเหมือนกับ การผ่าตัดใหญ่ประเภทอื่น ทำให้สามารถมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบอัน ได้แก่ 

• การติดเชื้อในบริเวณแผลที่ทำการผ่าตัด 
• เนื้อเยื่อ graft ไม่ติดหรือเสื่อมสภาพลงในภายหลัง  
• การเกิดพังผืดหรือช่องคลอดตื้นลงเนื่องจากไม่มีการขยายอย่างสม่ำเสมอ 
• การเกิดแผลเป็นหรือผิวหนังเปลี่ยนสีในบริเวณที่เก็บผิวหนังมาใช้
• บางกรณีอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่ายหรือระบบปัสสาวะ โดยเฉพาะในกรณีที่มีพังผืดดึงรั้งจนส่งผลต่อโครงสร้างภายใน 

อย่างไรก็ตาม ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้สามารถป้องกันได้ด้วยการวางแผนผ่าตัดแปลงเพศที่ดี การเลือกศัลยแพทย์ที่มีความรู้ ความสามารถและการดูแลแผลหลังจากการผ่าตัดอย่างดีอย่างใกล้ชิด

 

อาการหลังแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)

• หลังแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) จะมีเลือดซึม หรือมีของเหลวใสออกมาจากแผล
• หลังแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) จะมีอาการปวด และตึงแผลบริเวณที่สร้างอวัยวะเพศ
• หลังแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) มีอาการบวมช้ำบริเวณแคมและขาหนีบ
• หลังแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) มีอาการแสบเวลาปัสสาวะหรือปัสสาวะไหลเบา
• หลังแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) มีอาการอ่อนเพลียเพราะร่างกายเสียเลือดบางส่วน
• หลังแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) มีความรู้สึกชาบริเวณแผลที่สร้างช่องคลอด

ความแตกต่างของการแปลงเพศด้วยเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) กับการแปลงเพศเทคนิคอื่นๆ

การผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง มีอยู่หลายเทคนิคที่ได้รับความนิยมเช่น เทคนิคต่อกราฟ Skin Graft, เทคนิค Penile Inversion และเทคนิคต่อลำไส้  Colon ซึ่งแต่ละวิธีล้วนมีจุดเด่นที่ดีและมีข้อจำกัดเฉพาะตัว 

การเลือกใช้เทคนิคในการผ่าตัดแปลงเพศ จึงควรพิจารณาจากร่างกายของแต่ละบุคคล ว่ามีโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับการแปลงเพศเทคนิคใด  ความคาดหวังของผลลัพธ์ การใช้ชีวิตประจำวัน และคำแนะนำจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการผ่าตัดจริง และควรให้คำปรึกษาอย่างละเอียด 

ข้อดี ข้อด้อยข้องการแปลงเพศแต่ละเทคนิคแตกต่างกันดังนี้

 

ในด้านความลึกของช่องคลอด 

การแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) สามารถให้ความลึกของช่องคลอดในระดับปานกลางถึงมากทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปริมาณผิวหนังของคนไข้ผู้เข้ารับบริการว่ามีความเพียงพอหรือไม่

การแปลงเพศเทคนิค Penile Inversion ที่เป็นเทคนิคที่ใช้ผิวหนังจากองคชาตโดยตรงจะให้ความลึกได้ในระดับปานกลางเท่านั้น 

การแปลงเพศเทคนิคต่อลำไส้ Colon ที่เป็นเทคนิคการนำลำไส้ใหญ่มาสร้างเป็นช่องคลอดใหม่นั้นสามารถให้ความลึกได้มากที่สุด และยังเป็นเทคนิคที่สามารถรักษารูปร่างช่องคลอดในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับความชุ่มชื้นภายในช่องคลอด 

การแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ให้ผลลัพธ์ด้านความชุ่มชื่นในระดับปานกลาง ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของบริเวณผิวหนังที่เลือกนำมาใช้สร้างผนังช่องคลอด 

การแปลงเพศเทคนิค Penile Inversion เป็นเทคนิคที่การผ่าตัดไม่มีการใช้เยื่อเมือกตามธรรมชาติมาใข้ จึงทำให้มักเกิดภาวะช่องคลอดแห้งตามมา 

การแปลงเพศเทคนิคต่อลำไส้ Colon เทคนิคนี้มีข้อได้เปรียบกับเทคนิคอื่นอย่างชัดเจน เนื่องจากเนื้อเยื่อจากลำไส้ใหญ่ที่ใช้ในการนำมาผ่าตัดสร้างช่องคลอด นั้นสามารถหลั่งเมือกหล่อลื่นได้เองตามธรรมชาติได้เป็นอย่างดี ทั้งยังช่วยลดการระคายเคืองและป้องกันการติดเชื้อได้ในระดับหนึ่งด้วย

 

เมื่อเปรียบเทียบเรื่องความรู้สึกทางเพศ

• การแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) ถือว่าทำได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหากศัยลแพทย์มีการเชื่อมต่อเส้นประสาทจากคลิตอริสใหม่เข้ากับเนื้อเยื่อเดิมได้อย่างเหมาะสม ก็จะทำให้สามารถเกิดความรู้สึกคล้ายอวัยวะของเดิมได้เป็นอย่างดี 
• การแปลงเพศเทคนิค Penile Inversion นั้นให้ผลลัพธ์ด้านความรู้สึกทางเพศได้ในระดับปานกลาง 
• การแปลงเพศเทคนิคต่อลำไส้ Colon นั้นมีข้อจำกัดในเรื่องนี้อยู่มาก เนื่องจากเนื้อเยื่อของลำไส้นั้นไม่สามารถในการนำประสาทสัมผัสของเนื้อเยื่ออวัยวะเพศชายเดิมมาเชื่อมต่อได้ จึงอาจทำให้ความรู้สึกทางเพศได้น้อยกว่าเทคนิคอื่นๆ

ในด้านความเสี่ยงของการติดเชื้อ 

• การแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft) นั้นจะมีความเสี่ยงในระดับปานกลาง โดยเฉพาะการติดเชื้อในบริเวณแผล donor site หรือบริเวณที่เก็บผิวหนังมาใช้ ทำช่องคลอด 
• การแปลงเพศเทคนิค Penile Inversion นั้นมีความเสี่ยงติดเชื้อต่ำที่สุด เนื่องจากเป็นการใช้เนื้อเยื่อขององคชาตเดิมที่ร่างกายของคนไข้ผู้เข้ารับบริการมีความคุ้นเคยอยู่แล้ว จึงไม่ส่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายเท่าไร
• การแปลงเพศเทคนิคต่อลำไส้ Colon มีความเสี่ยงในระดับปานกลาง เพราะเป็นการผ่าตัดแปลงเพศที่เกี่ยวข้องกับระบบลำไส้ ซึ่งหากมีการรั่วไหลของสิ่งสกปรกหรือเกิดการติดเชื้อในช่องท้อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาได้ 

 

ทั้งนี้การผ่าตัดทุกชนิดจะไม่ส่งผลอันตรายต่อร่างกายเลยหากทำการเตรียมตัว ดูแล และเลือกศัลยแพทย์ในการผ่าตัดที่ดีและเหมาะสม

 

ระยะเวลาการพักฟื้น 

• การแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3 ถึง 6 เดือน เนื่องจากมีการเย็บต่อเนื้อเยื่อหลายส่วนและต้องดูแลแผลมากกว่า
• การแปลงเพศเทคนิค Penile Inversion ใช้ระยะเวลาฟื้นตัวโดยเฉลี่ยประมาณ 3 ถึง 4 เดือน
• การแปลงเพศเทคนิคต่อลำไส้ Colon มีระยะฟื้นตัวที่นานที่สุดประมาณ 4 ถึง 6 เดือน เนื่องจากคนไข้ผู้เข้ารับบริการจะต้องดูแลเป็นอย่างดีทั้งระบบภายในช่องท้องและแผลภายนอกไปพร้อมๆกัน

 

ผู้ที่เหมาะสมกับการแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)

การแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ (Skin Graft)  เหมาะกับ

• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ในด้านความลึกของช่องคลอดที่มีความลึกในระดับปานกลาง
• ผู้ที่ต้องการความชุ่มชื่นของช่องคลอดแบบปกติ หรือมีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ 
• ผู้ที่ต้องการความรู้สึกทางเพศที่สมจริง 
• ผู้ที่มีวินัยในการดูแลรักษาช่องคลอดอย่างต่อเนื่อง 
• ผู้ที่เคยได้รับการผ่าตัดแปลงเพศมาแล้วแต่เกิดภาวะแทรกซ้อน

อย่างไรก็ตามก่อนการผ่าตัดแปลงเพศ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากศัลยแพทย์โดยตรงเพื่อประเมินความเหมาะสมเป็นรายบุคคล

 

ผ่าตัดแปลงเพศเทคนิคต่อกราฟ นั้นเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีในการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง ทั้งยังมีข้อดีมากมาย ทั้งในด้านความลึกของช่องคลอด ความชุ่มชื้น ความรู้สึกที่ใกล้เคียงธรรมชาติ และยังมีความสามารถในการตอบสนองทางเพศ ได้เป็นอย่างดี การเลือกการศัลยกรรมแปลงเพศ  Skin Graft  วิธีนี้ควรพิจารณาจากปัจจัยหลากหลายด้าน ทั้งสภาพร่างกาย งบประมาณ สภาพจิตใจ และความสามารถในการดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด ควรปรึกษาศัลยแพทย์ แจ้งความต้องการและความกังวลในการผ่าตัดอย่างละเอียดก่อนเข้ารับการแปลงเพศ Skin Graft 

 

การแปลงเพศจึงไม่ใช่เพียงแค่เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเพศ จากเพศสภาพให้กลายเป็นเพศที่ใจต้องการเพียงเท่านั้น แต่เป็นการเลือกการเดินทางที่สำคัญของชีวิตการเลือกเทคนิคในการแปลงเพศที่เหมาะสมจะช่วยให้การเดินทางในครั้งนี้ราบรื่น ปลอดภัย และเป็นไปได้อย่างมั่นใจ ตามมา