การร้อยไหมจมูกแม้ไม่ต้องผ่าตัด แต่ซ่อนความเสี่ยงมากมาย เช่น พังผืด ไหมทะลุ ผิวเน่าตาย เส้นไหมเคลื่อนผิดที่ และผลลัพธ์ที่อาจไม่เป็นไปตามคาด บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ เพื่อความงามที่มาพร้อมกับความปลอดภัยอย่างแท้จริง
การร้อยไหมจมูกได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีก่อน เพราะคนมองกันว่าเป็นวิธีสามารถเพิ่มสันจมูก หรือเสริมจมูกได้โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรม แต่มีแผลเพียงแค่ขนาดเท่ารอยเข็มที่ปลายจมูกเพียงเท่านั้น ทั้งยังไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และได้ผลลัพธ์ทันใจ ในบางคนที่กลัวว่าการผ่าตัดทำศัลยกรรมจะได้รูปทรงที่ไม่เป็นที่น่าพึงพอใจ ยังมองเป็นทางเลือกเพื่อที่หลายคนจะเลือกที่จะทดลองทำก่อนทำศัลยกรรมจมูกจริง แต่รู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังความงามที่ดูจะสะดวกสบาย ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากกลับมีความเสี่ยงอยู่มากที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ร้อยไหมจมูกคืออะไร?
การร้อยไหมจมูก (Nose Thread Lift) คือการใช้เส้นไหมชนิดพิเศษซึ่งมักเป็นไหมละลาย PDO PCL หรือ PLLA สอดเข้าไปใต้ผิวหนังของจมูก เพื่อยกทรงจมูกขึ้นให้สูงขึ้น ปรับรูปทรงจมูก และทำให้จมูกดูโด่งขึ้นทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัด จากวอลลุมของไหม และเมื่อเวลาผ่านไป คอลลาเจนเริ่มสร้างตัวก็จะเป็นการเพิ่มสันจมูกจากคอลลาเจนของตัวผู้เข้ารับบริการเอง แต่การร้อยไหมจมูกเหมาะกับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนทรงจมูกแบบชั่วคราวหรือไม่ต้องการการศัลยกรรมแบบถาวร เนื่องจากไหมจะใช้เวลาในการสลายประมาณ 1 ปี และคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นก็สามารถสลายหายไปได้ตามการเวลา
แม้จะดูมีขั้นตอนไม่มาก ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องดมยาสลบ เป็นหัตถการที่ไม่ซับซ้อน แต่การร้อยไหมจมูกนั้นต้องอาศัยความละเอียดสูงและต้องใช้ความชำนาญของแพทย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากโครงสร้างของจมูกมีส่วนสำคัญทั้งหลอดเลือด เส้นประสาท มากมายทั้งยังมีชั้นผิวที่ซับซ้อน การร้อยไหมผิดพลาดอาจนำมาซึ่งผลข้างเคียงหรืออันตรายที่ไม่คาดคิดได้
อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการร้อยไหมจมูก

- จมูกอักเสบหรือติดเชื้อ (Infection) จากการร้อยไหมจมูก
การร้อยไหมจมูกเป็นการนำสิ่งแปลกปลอม (ไหมนับเป็นสิ่งแปลกปลอม) เข้าสู่ร่างกาย หากสถานที่ให้บริการ หรือเครื่องมือในการร้อยไหมจมูกไม่สะอาด หรือแพทย์ผู้ให้บริการขาดประสบการณ์ อาจทำให้การร้อยไหมจมูกเกิดการติดเชื้อในชั้นผิวหรือเนื้อเยื่อของจมูกได้
ลักษณะเริ่มต้นของอาการคือ บวม แดง ร้อน และเจ็บ หากปล่อยไว้นานอาจลุกลามจนกลายเป็นก้อนหนองขนาดใหญ่ ต้องกรีดระบายหนองออก และยังต้องผ่าตัดออกไหม ส่งผลให้เกิดพังผืดหรือแผลเป็นที่แก้ไขยากในอนาคต
- เส้นไหมเคลื่อนผิดตำแหน่งจากการร้อยไหมจมูก
การร้อยไหมจมูกที่ไม่ถูกชั้นผิวหรือไม่มีทักษะในการร้อยไหมจมูกที่ดี ทำให้มีโอกาสสูงที่เส้นไหมจะเคลื่อนที่หรือบิดตัวภายหลัง ทำให้เกิดการผิดรูปของจมูก เช่น ปลายจมูกเบี้ยว สันจมูกเป็นคลื่น หรือมีตุ่มนูนชัดเจนซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจและอาจต้องทำการร้อยไหมจมูกซ้ำเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

- ไหมทะลุผิวหนัง (Extrusion) จากการร้อยไหมจมูก
เส้นไหมที่ร้อยไหมจมูกแล้วดันออกมาจากผิว หรือที่หลายคนเรียกว่าอาการไหมทะลุ เกิดจากการใช้ไหมในการร้อยไหมจมูกจำนวนมากเกินความจำเป็น หรือใช้ไหมแข็งเกินไปจนร่างกายดันออกเอง ทำให้เกิดแผลเปิด และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำซ้อน อีกทั้งยังทำให้เกิดรอยแผลถาวรบริเวณจมูก
- ผลลัพธ์ในการร้อยไหมจมูกไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
บางคนที่ทำการร้อยไหมจมูก อาจทรงจมูกไม่เปลี่ยนแปลง หรือไม่ดูต่างไปจากเดิมเนื่องจากร่างกายสร้างคอลลาเจได้ไม่ดีเท่าไรนัก หรือจมูกดูแข็งและไม่เป็นธรรมชาติ จนต้องกลับมร้อยไหมจมูกใหม่ ซึ่งยิ่งทำซ้ำมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดพังผืดใต้ผิวหนัง ที่ทำให้จมูกแข็ง ขาดความยืดหยุ่น และยากต่อการทำศัลยกรรมในอนาคต
- ปวดเรื้อรังหรือเสียวแปลบในจมูกหลังร้อยไหมจมูก
ในบางกรณีความชานาญของแพทย์ยังไม่มากพอ ในตอนที่ร้อยอาจทำให้เส้นไหมพาดผ่านเส้นประสาทหรือใกล้บริเวณที่มีปลายประสาท ทำให้รู้สึกเจ็บแปลบเวลายิ้ม กด หรือเคลื่อนไหวใบหน้า ซึ่งอาการเหล่านี้อาจอยู่ได้หลายเดือนหรือเป็นเรื้อรัง
- พังผืดและการแข็งตัวของเนื้อจมูกหลังร้อยไหมจมูก
เมื่อร้อยไหมจมูกเรียบร้อย ร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นมารอบๆไหมที่ร้อยเข้าไป เป็นกลไกธรรมชาติ หากมีการร้อยไหมซ้ำหลายครั้งหรือใช้ไหมมากเกินไป พังผืดจะหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้จมูกแข็ง เสียความยืดหยุ่น และอาจผิดรูปได้ในระยะยาว
- ผลข้างเคียงทางจิตใจหลังร้อยไหมจมูกแล้วพลลัพธ์ไม่เป็นไปตามต้องการ
เมื่อผลลัพธ์จากการร้อยไหมจมูกที่ได้ไม่ตรงตามที่คาดหวัง หรือเกิดความเสียหายต่อรูปหน้า เช่น จมูกเบี้ยว ไหมทะลุ ผิวตาย สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อสภาพจิตใจ ความเครียด ความวิตกกังวล และความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองอย่างรุนแรง
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการร้อยไหมจมูก
- การเลือกคลินิกที่ไม่มีมาตรฐานหรือแพทย์ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
- การใช้ไหมที่ไม่มีคุณภาพหรือไม่ได้มาตรฐาน
- การทำกับผู้ที่มีโรคประจำตัวต่างๆ
- การร้อยไหมซ้ำหลายครั้งในระยะเวลาสั้น ๆ
- ขาดการดูแลหลังทำ เช่น ไม่ทำความสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสจมูก หรือออกกำลังกายหนักเกินไป
- ผู้ที่มีประวัติเคยศัลยกรรมหรือฉีดสารเติมเต็มมาก่อน ซึ่งอาจทำให้เนื้อจมูกอ่อนแอหรือมีพังผืดเดิมสะสมอยู่
ปัญหารูปร่างจมูกที่หลายคนอยากแก้ไขด้วยการร้อยไหมจมูก มีอะไรบ้าง?
ปัญหาที่ “ดั้งจมูก”
บริเวณดั้งจมูก หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ดั้ง” เป็นตำแหน่งต้นทางของโครงสร้างจมูก หากดั้งจมูกมีลักษณะแบน ราบ หรือแหมบ จะทำให้ใบหน้าดูไร้มิติ ขาดความโดดเด่น และดูแบนเมื่อมองจากด้านข้าง
ลักษณะปัญหาของดั้งจมูกที่พบบ่อยได้แก่
- ไม่มีสันดั้งเลย
- ดั้งต่ำเกินไปจนดูจมูกติดหน้า
- หน้าดูแบน ไม่มีมิติจากมุมข้าง
ปัญหาที่ “สันจมูก”
สันจมูกถือเป็นเส้นที่เชื่อมต่อจากดั้งลงมาถึงปลายจมูก และเป็นจุดสำคัญที่ช่วยเสริมให้ใบหน้าดูเรียว มีมิติ และมีความกลมกลืน หากสันจมูกมีปัญหา อาจทำให้ทรงจมูกดูขาดความต่อเนื่อง ไม่สวย หรือทำให้หน้าโดยรวมดูไม่สวยละมุน
ลักษณะปัญหาของสันจมูกที่พบบ่อย
- สันจมูกเตี้ย ดูแบน ไม่มีความโดดเด่น
- ฐานจมูกกว้าง ทำให้ใบหน้าดูกว้างกว่าปกติ
- มีฮัมพ์ (Hump) หรือมีกระดูกนูนกลางจมูก ทำให้แนวจมูกไม่เรียบ
ปัญหาที่ “ปลายจมูก”
ปลายจมูกถือเป็นจุดที่ช่วยเพิ่มความละมุนและเสน่ห์ให้ใบหน้าอย่างมาก หากปลายจมูกใหญ่ บาน หรือดูหย่อนคล้อย อาจทำให้หน้าดูแข็ง ไม่สมส่วน หรือขาดความอ่อนโยนในภาพรวม
ลักษณะปัญหาปลายจมูกที่พบบ่อย
- ปลายจมูกใหญ่หรือกลม
- ปีกจมูกบาน ดูกว้างเมื่อมองจากด้านหน้า
- ปลายตก หย่อน หรือไม่มีมิติ
ร้อยไหมจมูกแล้วเกิดพังผืด เกิดจากอะไร? อันตรายหรือไม่?
พังผืดจากการร้อยไหมจมูก คืออะไร?
พังผืด (Fibrosis) คือกระบวนการที่ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาเพื่อห่อหุ้มสิ่งแปลกปลอมซึ่งในที่นี้หมายถึงเส้นไหมที่ถูกร้อยลงสู่ชั้นปิวหนัง โดยกระบวนการนี้เป็นกลไกตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมกระทบกับเนื้อเยื่อโดยรอบ
การร้อยไหมจมูก หากร้อยไหมในตำแหน่งและชั้นผิวที่ถูกต้อง การเกิดพังผืดนี้จะถือว่า ตรงตามเป้าหมายของแพทย์ เพราะการร้อยไหม วัตถุประสงค์คือการให้ร่างกายสร้างพังพืดขึ้นมาตามความต้องการเนื่องจากพังผืดจะช่วยรัดแนวไหมไว้ในตำแหน่งที่แพทย์ร้อยไหมจมูก ทำให้จมูกดูยกกระชับ เต่งตึง และมีทรงที่ดูชัดเจนขึ้น

หากพังผืดเกิดผิดตำแหน่ง จะเกิดอะไรขึ้น?
ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากแพทย์ผู้ทำการร้อยไหมจมูกไม่ได้ร้อยไหมจมูกให้อยู่ในชั้นผิวที่เหมาะสม เช่น ร้อยไหมจมูกตื้นเกินไป หรือใช้ไหมที่แข็งและจำนวนมากเกินจำเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
- พังผืดจะไปกดรัดเส้นไหมในตำแหน่งผิด ส่งผลให้แนวจมูกผิดรูป
- อาจเกิด “จมูกบวม” ดูพองหรือบิดเบี้ยว ไม่เข้ารูปกับใบหน้า
- เห็นแนวเส้นไหมชัดเจนใต้ผิว หรือคลำเจอไตแข็งตามแนวที่ร้อย
- เกิด “ปลายไหมโผล่” หรือ “ปมไหมนูน” บริเวณปลายจมูก
- พังผืดที่ไม่สมดุลอาจทำให้รูจมูกผิดรูป จมูกเป็นคลื่นหรือเบี้ยว
- ทรงจมูกโดยรวมดูเสีย เสริมแล้วไม่สวยตามที่ตั้งใจ
ในกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องทำการ “แก้จมูก” หรือผ่าตัดเพื่อเอาไหมและพังผืดออก ซึ่งเป็นวิธีที่ยุ่งยากและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเสริมจมูกแบบทั่วไปหลายเท่า

พังผืดจากการร้อยไหมจมูก อันตรายไหม?
สามารถแจกแจงได้ดังนี้
- ถ้าพังผืดจากการร้อยไหมจมูกเกิดขึ้นในผิวหนัง “ชั้นลึกและตำแหน่งที่ถูกต้อง” จะช่วยพยุงทรงจมูก ทำให้จมูกยกกระชับ เกิดผลลัพธ์ที่ต้องกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการในการร้อยไหมจมูก
- ถ้าผังผืดจากการร้อยไหมจมูกในชั้นผิวหนัง “ชั้นตื้นเกินไป” บริเวณนั้นจะกลายเป็นพังผืดที่รั้งผิดทิศทาง ทำให้จมูกผิดรูปและเกิดผลข้างเคียง
ดังนั้น การร้อยไหมไม่ใช่แค่การร้อยไหมจมูก ลงไปในจมูกเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจทางกายวิภาคอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะตำแหน่งของชั้นผิว เส้นเลือด เส้นประสาท และการพยุงทรงจมูกอย่างเป็นธรรมชาติ
หากร้อยไหมจมูกถูกชั้นผังผืดที่ได้เป็นผังผืดที่ดีผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอย่างไร
พังผืดที่ได้จากการร้อยไหมจมูกจะสามารถช่วยให้จมูกดูโด่งเป็นสันได้มากขึ้น ทั้งนี้เมื่อร่างกายตอบสนองต่อเส้นไหม จะเกิดการอักเสบในระดับที่ควบคุมได้ ส่งผลให้ร่างกายหลั่งสารที่กระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ และเพิ่มการผลิตคอลลาเจนตามแนวที่ฝังไหม
ผลลัพธ์จากการร้อยไหมจมูกคือ
- ผิวบริเวณจมูกดูยกกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ทรงจมูกดูมีความคมชัด
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวภายนอกดูสดใส เปล่งปลั่ง
- เสริมความเต่งตึงโดยไม่ต้องใช้ซิลิโคนหรือผ่าตัด
ร้อยไหมจมูกให้ปลอดภัย ต้องระวังเรื่องพังผืดอย่างไร?
- เลือกคลินิกและแพทย์ที่มีประสบการณ์จริง ด้านการร้อยไหมจมูกโดยเฉพาะ
- ใช้ไหมที่ได้รับมาตรฐาน ไม่แข็งกินไป และเหมาะกับบริเวณจมูก
- ไม่ควรร้อยไหมจมูกถี่หรือบ่อยเกินความจำเป็น เพราะจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการสะสมพังผืด
- หลังทำการร้อยไหมจมูกจะต้องดูแลให้เป็นอย่างดีตามคำแนะนำแพทย์ อย่างเคร่งครัด เพื่อลดการอักเสบหรือการเคลื่อนของไหม
คำแนะนำก่อนตัดสินใจร้อยไหมจมูก
- ปรึกษาแพทย์โดยละเอียดและแจ้งข้อมูลที่เป็นความจริงเท่านั้น
- ตรวจสอบรีวิวและผลงานของคลินิกหรือแพทย์ก่อนทำ
- ตรวจสอบชนิดของไหมที่ใช้ในการร้อยไหมจมูก และมั่นใจว่าได้รับการรับรองความปลอดภัย
- พิจารณาว่าร้อยไหมจมูกเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของตัวเราหรือไม่
- หลีกเลี่ยงการเข้าคลินิกที่ไม่น่าเชื่อถือ
ทางเลือกอื่นแทนการร้อยไหมจมูก
- การฉีดฟิลเลอร์จมูก (Nose Filler)
- การเสริมจมูกด้วยซิลิโคนหรือกระดูกอ่อน

ประเภทของไหมที่ใช้ในการร้อยไหมจมูก
การเลือกประเภทของไหมที่ใช้ในการร้อยไหมจมูกจะส่งผลต่อทั้งผลลัพธ์และความปลอดภัยของผู้เข้ารับบริการ โดยในปัจจุบันไหมที่ในการร้อยไหมจมูกร้อยไหมจมูกใช้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ ไหมละลาย และ ไหมไม่ละลาย ซึ่งแต่ละแบบมีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงที่ต่างกัน
ไหมละลาย และ ไหมไม่ละลาย ต่างกันอย่างไร
- ไหมละลาย
เป็นไหมที่สามารถสลายตัวได้เองในร่างกายภายในระยะเวลา 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหม เช่น PDO, PLLA, PCL ถือว่าปลอดภัยกว่าหากร้อยในปริมาณที่เหมาะสมและทำโดยแพทย์ที่มีความรู้ด้านการร้อยไหมโดยเฉพาะ
- ไหมไม่ละลาย
เป็นไหมถาวรที่ไม่สามารถสลายได้ในร่างกาย เช่น ไหมทองคำ ซึ่งนิยมในอดีตโดยใช้ในการร้อยไหมจมูก แต่ในปัจจุบันเมื่อมีวัสดุที่ใช้มากขึ้นความนิยมก็เสื่อมไปตามเวลา เนื่องจากไหมชนิดนี้ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดพังผืดถาวร ไหมทะลุ และเกิดการติดเชื้อได้ในระยะยาว

ไหม PDO, PLLA, PCL คืออะไร? ต่างกันอย่างไร
จุดเด่น จุดด้อยของไหมแต่ละชนิด

ไหม PDO (Polydioxanone)
เป็นไหมละลายที่ได้รับความนิยมสูงสุดในวงการร้อยไหมจมูกเนื่องจากไม่อันตรายและสามารถสลายตัวได้เองในร่างกายภายในระยะเวลา 6-8 เดือน นอกจากจะไม่ทิ้งสารตกค้างแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณที่ฝังไหม ส่งผลให้ผิวดูตึงกระชับขึ้นในระยะสั้น
- จุดเด่นของไหม PDO คือ ความอ่อนโยนต่อเนื้อเยื่อ มีโอกาสเกิดอาการแทรกซ้อนต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจจะเสริมจมูกแบบไม่ถาวร หรือยังลังเลในการทำจมูก
- จุดด้อยของไหม PDO คือผลลัพธ์ที่ได้จะไม่คงอยู่ได้นานนัก มักต้องกลับมาทำการร้อยไหมจมูกซ้ำทุก 6-8 เดือน เพื่อรักษาทรงจมูกที่ได้ไว้
ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid)
เป็นไหมละลายที่สามารถคงสภาพในร่างกายยาวนานมากกว่า ไหมPDO โดยจะสามารถคงใต้ผิวได้อยู่ประมาณ 12-18 เดือน
- จุดเด่นของไหม PLLA คือ สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชัดเจนขึ้น และไม่ต้องการร้อยไหมบ่อย ๆ
- จุดด้อยของไหม PLLA คือมีลักษณะที่แข็งกว่าไหม PDO ทำให้ต้องอาศัยความแม่นยำสูงในการร้อย หากร้อยไหมจมูกผิดชั้นหรือร้อยไหมจมูกจำนวนมากเกินไป อาจทำให้เส้นไหมเคลื่อนตำแหน่ง หรือแทงทะลุออกจากผิวได้ง่ายกว่าไหมชนิดอื่น
ไหม PCL (Polycaprolactone)
เป็นไหมที่ถือว่าสามารถคงสภาพใต้ผิวได้นานที่สุดใน ไหมทั้ง 3 ชนิดนี้ โดยสามารถคงสภาพใต้ผิวหนังได้นานถึง 18-24 เดือน
- จุดเด่นของไหม PCL คือ มีคุณสมบัติพิเศษคือมีความยืดหยุ่นสูง ไม่แข็งเกินไป จึงสามารถให้รูปทรงที่เป็นธรรมชาติและดูละมุนได้มากกว่าการร้อยไหมจมูกชนิดอื่น ผลลัพธ์ในการร้อยไหมจมูก PCL จึงค่อนข้างยาวนาน
- จุดด้อยของไหม PCL คือมีราคาสูงกว่าไหมชนิดอื่น และแพทย์ที่ทำต้องมีทักษะและประสบการณ์สูงในการ้อยไหมจมูกให้ถูกต้อง เนื่องจากไหมชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูง หากร้อยผิดอาจทำให้ได้รูปทรงที่บิดเบี้ยวหรือไม่เป็นธรรมชาติ
การเลือกชนิดไหมที่ให้ในการร้อยไหมจมูกที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาร่วมหลากหลายปัจจัยจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจเข้ารับบริการร้อยไหมจมูก
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการร้อยไหมจมูก (FAQ)
ร้อยไหมจมูกเจ็บไหม?
- โดยทั่วไป การร้อยไหมจมูกจะใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนเริ่มทำ ทำให้ระหว่างการฝังไหมจะรู้สึกแค่ตึง ๆ หรืออึดอัดเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่อาการเจ็บปวดรุนแรง อย่างไรก็ตาม ระดับความรู้สึกจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และทักษะของแพทย์ก็มีผลสำคัญต่อความรู้สึกระหว่างทำ
ต้องใช้ไหมกี่เส้นในการร้อยไหมจมูก?
- จำนวนไหมที่ใช้ในการร้อยไหมจมูกขึ้นอยู่กับลักษณะของจมูกเดิม ปัญหาจมูกที่ต้องการแก้ไข และผลลัพธ์ที่ต้องการ รวมทั้งชนิดของไหมที่เลือกใช้ในการร้อยไหมจมูกโดยทั่วไปจะใช้ประมาณ 4–10 เส้น สำหรับการยกปลายจมูก หรือเสริมแนวสัน หากต้องการผลชัดเจน อาจต้องใช้จำนวนมากกว่านี้มากกว่านี้ แต่แพทย์จะเป็นผู้วางแผนอย่างเหมาะสมกับแต่ละเคส
ผลลัพธ์ในการร้อยไหมจมูกจะสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน?
- ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจมูกสามารถอยู่ได้ตั้งแต่ 6–18 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดของไหมที่ใช้ในการร้อยไหมจมูก ว่าเป็น PDO, PLLA, PCL และการดูแลรักษาหลังทำอย่างเหมาะสม การใช้ชีวิตประจำวันก็มีส่วนด้วย หากร้อยไหมร่วมกับการฉีดสารบำรุงหรือการใช้เทคโนโลยีกระตุ้นคอลลาเจนเพิ่มเติม อาจช่วยยืดอายุผลลัพธ์ได้อีก
แม้การร้อยไหมจมูกจะดูเป็นวิธีที่รวดเร็วและไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็มีความเสี่ยงแฝงอยู่จำนวนไม่น้อย การตัดสินใจทำหัตถการใด ๆ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด และเลือกสถานพยาบาลที่มีมาตรฐาน พร้อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อย่าลืมว่าความงามที่แท้จริง ควรมาพร้อมกับความปลอดภัยเสมอ

