ปัญหาชั้นตาที่การทำตาสองชั้นช่วยแก้ไขได้ คืนตาคู่สวยเพิ่มความมั่นใจ
ที่คนโบราณเขาพูดกันว่า ดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของดวงใจ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ยังคงจริงและใช้ได้เสมอ เพราะตานั้นเท่ากับหน้าต่างของหัวใจที่สะท้อนอารมณ์ สะท้อน ความรู้สึก และสะท้อนบุคลิกภาพของเราได้อย่างชัดเจน ในบางที หน้าบึ้งแต่ตายิ้ม เพราะเรายินดี หรือดีใจอยู่ข้างในลึกๆ บางคนก็บอกว่า แค่มองตา ก็รู้แล้วว่าคิดอะไร เพราะดวงตาของเรานั้นแทบตอบทุกอย่างที่เราคิดได้ทั้งหมด สังเกตไหมคะว่า ทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้น นั้นสะท้อนว่าคนรอบข้างเรามักจะมองดวงตาของเพราะแล้วตีความต่างๆไปได้เอง นั่นแปลว่าความมั่นใจของเราเกี่ยวกับดวงตาก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะทำให้คนมองมาแล้วจะรู้สึกมั่นใจนั่นเอง
หลายคนจึงต้องดูแลดวงตา ตั้งแต่ทาครีม ทำเครื่องยกกระชับ ฉีดสารเติมเต็มเพื่อให้ดวงตาดูกลม โตสวยอยู่ตลอดเวลา แต่ปัญหาตรงเปลือกตา หรือปัญหาของชั้นตา การทำหัตถการเหล่านั้นอาจจะแก้ปัญหาได้ไม่ทั้งหมด การทำศัลยกรรมจึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์มากกว่าเมื่อต้องการแก้ปัญหาชั้นตา
ชั้นตาที่ชัดเจนสวยงามนั้นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยชูให้ดวงตาดูโดดเด่น สดใส และมีเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้ที่มาพบเห็นรู้สึกประทับใจ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับชั้นตา หรือในบางคนก็มีปัญหาชั้นตาแต่ไม่รู้ตัว บทความนี้จะพามาเช็ตลิสต์ปัญหาชั้นตา และปัญหาต่างๆที่สามารถทำตาสองชั้นเพื่อแก้ปัญหาได้ พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการทำตาสองชั้น ข้อดี ข้อจำกัด และสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจแก้ปัญหาชั้นตาด้วยการทำตาสองชั้น เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจทำตาสองชั้น
ทำความเข้าใจปัญหาชั้นตามีอะไรบ้าง ดูยังไง ข้อสังเกต
ปัญหาเกี่ยวกับชั้นตามีหลากหลาย บางปัญหาสามารถแก้ไขได้เพียงแค่ทำหัตถการหรือแต่งหน้าเพื่อกลบปัญหาเหล่านั้น แต่บางปัญหา จำเป็นที่จะต้องทำศัลยกรรมตาสองชั้นร่วมด้วยเพื่อแก้ปัญหาในระยะยาว

1. ปัญหาตาชั้นเดียว (Monolid)
ตาชั้นเดียว ดวงตาลักษณะนี้ พบได้บ่อยในกลุ่มคนเอเชียโดยเฉพาะในกลุ่มคนไทย จีน เกาหลี และญี่ปุ่น จะมีลักษณะคือเปลือกตาบนจะเรียบเนียน ไม่มีรอยพับของชั้นตาที่ชัดเจน จึงทำให้ดวงตาดูเหมือนมีขนาดที่เล็ก ตาดูปรือง่วงนอน และไม่สดใส
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่สามารถแก้ได้ด้วยการทำตาสองชั้น เนื่องจากการทำตาสองชั้นนั้นจะช่วยเปิดเบ้าตาให้ดูกว้างขึ้น ดวงตาจะดูตื่น มีชีวิตชีวา ดวงตาดูโตขึ้น มีมิติมากขึ้น และมีเสน่ห์ขี้เล่น ดูเป็นสาวมากขึ้น ง่ายสำหรับการแต่งหน้าสไตล์ต่างๆและยังขับโครงสร้างของใบหน้าให้ดูสมดุลและอ่อนหวานขึ้นอีกด้วย

2. ปัญหาตาหลบใน (Hidden Eyelid / Partially Hooded Eyelid)
ตาหลบใน รูปเปลือกตาลักษณะนี้มักเกิดในคนที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่รอยพับของชั้นตากลับถูกซ่อนอยู่ใต้หนังตาส่วนเกินที่หย่อนลงมามากเกินไปจนทับเปลือกตา ส่งผลให้ไม่สามารถมองเห็นชั้นตาได้อย่างชัดเจนเมื่อลืมตา หรือเห็นไม่ชัด เห็นได้ไม่เต็มที่ ที่สำคัญยังมีหนังตาที่มากทำให้ดูตาบวมอีกด้วย
ผู้ที่ประสบปัญหานี้จะทำให้ดวงตาดูไม่สดใส เหนื่อยล้า เหมือนคนอดนอนอยู่ตลอดเวลา ในบางคนที่มีตาหลบในอาจทำให้พื้นที่เปลือกตาบนดูแคบลงทำให้เวลาแต่งหน้า กรีดอายไลเนอร์ยากทาสีตาแล้วมองไม่ค่อยเห็น
หากแก้ไขด้วยการทำตาสองชั้นจะช่วยยกผิวของหนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยออก ไปและสร้างหรือเน้นรอยพับของชั้นตาให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น จะทำให้ดวงตาดูเปิดกว้าง สดใส และมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น แต่งหน้าง่ายขึ้น ตาดูโต ใบหน้าภาพรวมดูชัดมากขึ้น

3. ปัญหาชั้นตาไม่เท่ากัน (Asymmetrical Eyelids)
ชั้นตาไม่เท่ากัน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและยังเป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความกังวล กับผู้ที่ประสบปัญหานี้มาก เนื่องจากภาพรวมของดวงตาทั้งสองข้างจะมีลักษณะชั้นตาที่ไม่สมมาตรกันอย่างเห็นได้ชัด อาจมองเห็นปัญหาได้ดังนี้
- ข้างหนึ่งมีชั้นตาสองชั้น อีกข้างเป็นตาชั้นเดียว
- ทั้งสองข้างมีชั้นตาสองชั้น แต่มีระดับความสูง ความลึก หรือรูปทรงของรอยพับที่ไม่เท่ากัน
- ข้างหนึ่งมีหนังตาตก แต่อีกข้างปกติ หรือตกไม่เท่ากัน
ความไม่เหมือนกันของชั้นตาสองชั้นที่เกิดขึ้น จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมของใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล ส่งผลให้ผู้ที่ประสบปัญหานี้มีความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง
การทำตาสองชั้นเพื่อแก้ไขจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้นได้ โดยต้องแก้ให้ชั้นตาทั้งสองข้างมีเท่ากันหรือสมมาตรกันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์ที่จะต้องวิเคราะห์โครงสร้างของตาทั้งสองข้างอย่างละเอียด ดูความเป็นไปได้และความเหมาะสมของการทำตาสองชั้น และทำการปรับแต่งให้เข้ากัน เพื่อให้ได้ดวงตาที่มีชั้นตาที่สวยงามและเข้ากับใบหน้า

4. ปัญหาเปลือกตาตก / หนังตาตก (Ptosis / Droopy Eyelids)
เปลือกตาตก หรือ หนังตาตก (Ptosis) สังเกตได้จากขอบของเปลือกตาบนจะอยู่ต่ำกว่าตำแหน่งเปลือกตาปกติ เมื่อมีลักษณะแบบนี้จะส่งผลกระทบตามมาคืออาจบดบังรูม่านตา ส่งผลให้มีปัญหาด้านการมองเห็นคือเปลือกตาจะบดบังการมองเห็น ซึ่งสามารถเกิดได้ตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงรุนแรง
ปัญหานี้สามารเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น:
- กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง: อาการของกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตาอ่อนแรงลง ทำให้เปลือกตาไม่สามารถเปิดได้เต็มที่
- ความผิดปกติของเส้นประสาท: เส้นประสาทที่มีหน้าที่ทำการควบคุมกล้ามเนื้อเปลือกตาทำงานผิดปกติ
- ความผิดปกติแต่กำเนิด: เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิด
- ผลข้างเคียงจากโรคประจำตัวหรือยาบางชนิด: เช่น โรคเบาหวาน หรือยาบางประเภท ส่งผลให้เกิดเปลือกตาตก
- อายุที่เพิ่มขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อรอบดวงตาอาจเสื่อมสภาพลงเปลือกตาจึงตก
การทำตาสองชั้นเพื่อแก้ไขปัญหาหนังตาตก มีความจำเป็นที่จะต้องทำร่วมกับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนเนื่องจากจะเป็นการช่วยยกกระชับเปลือกตาให้สูงขึ้น เปิดเปลือกตาทำให้มุมมองการมองเห็นกว้างขึ้น ส่งผลให้ดวงตาภาพรวมดูสดใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
5. ปัญหาเปลือกตาหย่อนคล้อยจากวัยที่เพิ่มขึ้น (Dermatochalasis)
เมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้น และเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนไปจนถึงวัยสูงอายุ ผิวหนังที่อยู่บริเวณเปลือกตาจะเริ่มหย่อนคล้อยลงจากความยืดหยุ่นของผิวหนังที่ลดลงเพราะคอลลาเจนและอิลาสตินเสื่อมสภาพลง ทำให้มีปัญหาเปลือกตาหย่อนคล้อย ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน จะสังเกตได้จากผิวหนังบริเวณเปลือกตาบนจะดูห้อยย้อยลงมาคล้ายถุง หรือมีไขมันสะสมที่เปลือกตาเพิ่มขึ้น ทำให้ดวงตาภาพรวมมีความบวม ปรือและดูแก่กว่าวัยหากไม่ได้รับการดูแล ในบางกรณีมีเนื้อที่เปลือกตามากก็สามารถบดบังชั้นตาสองชั้นที่เคยมี
แก้ปัญหาได้ด้วยการทำตาสองชั้นเพื่อช่วยยกกระชับเปลือกตา ทำให้ดวงตาดูอ่อนกว่าวัย สดใส และคืนความกระชับให้ผิวเปลือกตา

6. ปัญหาไขมันสะสมบริเวณเปลือกตามากเกินไป (Excess Fat in Eyelids)
ไขมันที่สะสมบนเปลือกตามากเกินไป ไม่ได้เกี่ยวกับคนที่อ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมากแต่ในบางคนอาจเกิดจากพันธุกรรม หรือมีลักษณะแบบนั้นอยู่แล้ว การที่ มีไขมันสะสมบริเวณเปลือกตาบนมากเกิน จะทำให้เปลือกตาดูบวม หนา และหนัก หากเป็นผู้ที่มีตาสองชั้น การมีไขมันที่เปลือกตามากจนเกินไปก็จะทำให้ชั้นตาไม่ชัด หรือดูไม่ออก
การทำตาสองชั้น และกำจัดไขมันส่วนเกินที่เปลือกตาจะช่วยให้เปลือกตาดูบางลง ชั้นตาสองชั้นดูมีความคมชัดที่มากขึ้น และดวงตาดูสดใส หวานเปิดมากขึ้น
7. ปัญหาจากศัลยกรรมตาสองชั้นที่ไม่ประสบความสำเร็จ (Previous Unsuccessful Double Eyelid Surgery
ปัญหานี้จะเกิดจากผู้ที่เคยผ่านการทำศัลยกรรมตาสองชั้นมาแล้ว แต่ไม่เป็นที่พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ มักมีปัญหาดังนี้
- ชั้นตาไม่ชัดเจน: รอยพับที่ศัลยแพทย์เดิมสร้างขึ้นมาเลือนหายไป หรือไม่คมชัดอย่างที่ต้องการ
- ชั้นตาไม่เท่ากัน: ชั้นของเปลือกตาทั้งสองข้างมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
- ชั้นตาสูงหรือต่ำเกินไป: ทำให้ดวงตาดูไม่เป็นธรรมชาติ ดูแปลก หรือดูไม่เข้ากับหน้า
- ชั้นตาดูแข็งทื่อ ไม่เป็นธรรมชาติ: ความชำนาญของศัลยแพทย์ที่ ผ่าตัดตาแล้วไม่ได้รูปเท่าที่ควรขาดความโค้งมนที่กลมกลืนกับรูปหน้า
- มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ: เช่น แผลเป็นนูน เส้นประสาทเสียหาย หรือตาปิดไม่สนิท
ในผู้ที่มีปัญหากรณีเหล่านี้ศัลยแพทย์จำเป็นต้องเข้ารับการ ทำตาสองชั้นเพื่อแก้ไข ซึ่งการทำตาสองชั้นครั้งที่สองนี้จะมีความซับซ้อนกว่าการทำตาสองชั้นครั้งแรก โดยศัลยแพทย์จะต้องวิเคราะห์ปัญหาอย่างละเอียด และใช้เทคนิคในการแก้ไข เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เข้ากับใบหน้าอย่างเหมาะสม
เลือกเทคนิคการทำตาสองชั้นให้เหมาะกับปัญหาและความต้องการ
การทำตาสองชั้นมีหลากหลายเทคนิค ศัลยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาของเปลือกตา ความต้องการของคนไข้
1.การทำตาสองชั้นด้วยเทคนิค Glamor Eyes
การทำตาสองชั้นด้วยเทคนิค Glamor Eyes เป็นการทำตาสองชั้นเทคนิคพิเศษของ APS Clinic ที่บวมน้อยจนถึงแทบไม่บวมเลยหลังทำการผ่าตัด ทำให้คนไข้ผู้เข้ารับบริการสามารถคาดคะเนความสูงของชั้นตาได้หลังทำโดยไม่ต้องรอให้ตายุบ มีความสวยงาม คงทน และสามารถปรับให้เข้ากับรูปหน้า และรูปทรงตาได้ทุกรูปเป็นอย่างดี เทคนิคนี้สามารถทำร่วมกับเทคนิคเสริมต่างๆเช่นการจัดเรียงไขมัน หรือยกกล้ามเนื้อตาได้ มีความพิเศษคือศัลยแพทย์ทำการเย็บทั้งด้านในและด้านนอก
ข้อดี
- สามารถเลือกความสูงของชั้นตาได้ตามต้องการโดยไม่ต้องกังวล
- มีความแน่น คงทน
- หายไว้กว่าปกติ
- บวมน้อย หรือแทบไม่บวมเลย
- ไม่ต้องกังวลปัญหาเรื่องตาหอยแครงในช่วงระยะแรกของการทำตา
- ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อย
- ไม่ต้องกังวลปัญหาชั้นตาหลุดในอนาคต
- แก้ปัญหาชั้นตา และปัญหาดวงตาได้ทุกรูปแบบ
- ไม่ทิ้งรอยแผลเป็นหลังทำ
ข้อเสีย
- ไม่สามารถทำที่อื่นได้ ต้องทำที่ APS Clinic ที่เดียวเท่านั้น
- ไม่สามารถตัดหนังตาออกได้ในผู้ที่ต้องการผ่าตัดหนังตาร่วมด้วย หากทำเทคนิคกรีดสั้น

2. การทำตาสองชั้นแบบกรีด
การทำตาสองชั้นแบบกรีด เป็นการทำตาสองชั้นแบบมาตรฐานและได้รับความนิยมสูงสุด เพราะให้ผลลัพธ์ที่ถาวรและยังสามารถแก้ไขปัญหาชั้นตาได้อย่างหลากหลาย โดยการ
- กรีดเปิดเปลือกตาตามแนวเส้นที่ได้ออกแบบและกำหนดความสูงของชั้นตาไว้ล่วงหน้า
- ตัดแต่งผิวหนังส่วนเกินในกรณีที่มีปัญหาเปลือกตาหย่อนคล้อย หนังตาตก หรือมีผิวหนังเกินมาก
- กำจัดไขมันส่วนเกินหากมีไขมันสะสมบริเวณเปลือกตามากเกินไปศัลยแพทย์จะนำออกเพื่อตกแต่ง
- จัดเรียงกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเพื่อสร้างรอยพับของชั้นตาให้คมชัดและเข้ากับใบหน้า
- เย็บกล้ามเนื้อและผิวหนังเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างรอยพับของชั้นตาให้ติดถาวร
ข้อดี
- ผลลัพธ์ถาวร
- แก้ไขปัญหาได้ครอบคลุม
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก เปลือกตาหย่อนคล้อย มีไขมันสะสมเยอะ หรือต้องการชั้นตาที่คมชัด
- สามารถแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ในคราวเดียวกัน
- ให้ชั้นตาที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติ
ข้อจำกัด
- มีอาการบวมช้ำและใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าเทคนิคอื่นทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นที่นานกว่า
- จะมีรอยแผลเป็น แต่โดยทั่วไปจะจางหายไปและถูกซ่อนอยู่บริเวณรอยพับของชั้นตา
3. การทำตาสองชั้นแบบเย็บ/เจาะ
การทำตาสองชั้นแบบเย็บ เทคนิคนี้ไม่ต้องกรีดเปิดเปลือกตา ศัลยแพทย์จะใช้ไหมเส้นเล็ก ร้อยผ่านชั้นผิวหนัง กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตา เพื่อเป็นการสร้างรอยพับของชั้นตาขึ้นมา โดยทำการเย็บเป็นจุดเล็กๆ 2-5 จุด ขึ้นอยู่กับเทคนิคของศัลยแพทย์
การทำตาสองชั้นเทคนิคนี้เหมาะสำหรับ
- ผู้ที่เปลือกตาไม่หนามาก
- ไม่มีไขมันส่วนเกินเยอะ
- ไม่มีปัญหาหนังตาตกหรือเปลือกตาหย่อนคล้อยมากนัก
- ต้องการผลลัพธ์ที่ไม่ถาวรมากนัก
- ต้องการพักฟื้นน้อยและไม่ต้องการมีแผลเป็นจากการกรีด
ข้อดีของเทคนิคนี้:
- ไร้รอยแผลเป็นขนาดใหญ่ มีเพียงรูเล็กๆ จากการร้อยไหม
- อาการบวมช้ำน้อยและหายเร็วกว่า ทำให้พักฟื้นสั้น
- ให้ชั้นตาที่ดูเข้ากับใบหน้าได้อย่างกลมกลืนเนื่องจากไม่ได้เปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างหรือกล้ามเนื้อ
- หากไม่พอใจผลลัพธ์ สามารถแก้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ง่ายกว่า เพราะเป็นเพียงแค่การร้อยไหม
ข้อจำกัด
- ไม่เหมาะสำหรับผู้มีปัญหาซับซ้อน
- ไม่สามารถทำร่วมกับการแก้ปัญหาตาอื่นๆร่วมด้วยได้ เช่นตัดหนังตา จัดเรียงไขมัน เป็นต้น
- ไหมอาจหลุดได้ในระยะยาว ทำให้ชั้นตาจางหายไปวิธีนี้เป็นวิธีที่ไม่ถาวร
4. การทำตาสองชั้นร่วมกับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis Correction)
ในกรณีที่มีปัญหาหนังตาตกที่เกิดจากภาวะ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) การทำตาสองชั้นเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ จึงทำให้ศัลยแพทย์ต้องทำการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมด้วย การทำตาสองชั้นเทคนิคนี้เป็นการผ่าตัดทำตาสองชั้นที่ซับซ้อนกว่าปกติ เนื่องจากมีการปรับความตึงของกล้ามเนื้อ Levator ที่เป็นกล้ามเนื้อทำหน้าที่ยกเปลือกตา ทำให้เปลือกตาสามารถเปิดได้กว้างขึ้น
วิธีการแก้ไข
- ศัลยแพทย์จะเข้าไปปรับความยาวหรือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ Levator เพื่อให้สามารถยกเปลือกตาได้สูงขึ้น
- ในกรณีที่กล้ามเนื้อ Levator อ่อนแรงมากจนไม่สามารถแก้ไขได้ แพทย์อาจใช้วิธีแขวนเปลือกตาด้วยวัสดุสังเคราะห์กับกล้ามเนื้อหน้าผากด้วยวัสดุสังเคราะห์
ข้อดีของเทคนิคนี้
- ช่วยให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติหรือดีขึ้น
- ตาไม่ดูปรือหรือเหนื่อยล้า กลับมาสดใสตามปกติ
- ได้ชั้นตาที่สวยงามและสมดุล
ข้อจำกัด
- เป็นหัตถการที่ซับซ้อน: ต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่ผ่านการทำเคสมาอย่างหลากหลาย
- ระยะเวลาพักฟื้นอาจนานกว่า เนื่องจากเป็นการผ่าตัดที่ใหญ่กว่าปกติ

ประโยชน์หลักที่ได้รับจากการทำตาสองชั้น
- เพิ่มความสวยงามและความมั่นใจ
- แก้ไขปัญหาการมองเห็นในกรณีที่หนังตาลงมาปิดดวงตา
- ลดปัญหาการระคายเคืองตา กรณีที่เปลือกตาตกมาก ผิวหนังส่วนเกินอาจสัมผัสกับขนตา ทำให้เกิดการระคายเคืองตา ตาอักเสบ หรือน้ำตาไหลได้
- ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นและเห็นผลลัพธ์ที่สวยงามชัดเจนยิ่งขึ้น
- ดูอ่อนวัยลง ทำให้ดวงตาดูสดใส ไม่เหนื่อยล้า และใบหน้าโดยรวมดูอ่อนวัยลง
- ปรับสมดุลใบหน้าเนื่องจากการมีชั้นตาที่สมมาตรและกลมกลืนกับรูปหน้าโดยรวม จะช่วยเสริมให้ใบหน้าดูสมดุลและสวยงามยิ่งขึ้น
ช่วยประกอบการตัดสินใจในการทำตาสองชั้น
การทำตาสองชั้นเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ เนื่องจากดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางและมีความเสี่ยงสูง เมื่อจะทำการอะไรเกี่ยวกับดวงตา จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและไม่เสี่ยงอันตรายโดยพิจารณาจากองค์ประกอบดังนี้
การเลือกแพทย์และสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
เลือกศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง มีความรู้เกี่ยวกับปัญหาและโครงสร้างของดวงตาเป็นอย่างดี
- สามารถตรวจสอบประวัติการศึกษา ประสบการณ์ และผลงานของศัลยแพทย์ได้
- ใบอนุญาตประกอบวิชาชีอย่างถูกต้อง
- เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่สะอาด ปลอดภัย มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และได้รับการรับรองมาตรฐาน
- ศึกษาจากรีวิวและผลลัพธ์ของผู้ที่เคยรับบริการจริง2. การปรึกษาและประเมินผลกับแพทย์อย่างละเอียด
ก่อนการผ่าตัด จะต้องมีการปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด
- แจ้งประวัติโดยละเอียดโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา และยาที่กำลังรับประทานอยู่เป็นประจำ
- ประเมินสภาพดวงตา ตรวจสอบโครงสร้างเปลือกตา ปริมาณไขมัน ผิวหนังส่วนเกิน และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตา
- ร่วมกันออกแบบความสูงและรูปทรงของชั้นตาให้เหมาะสมกับรูปหน้าและความต้องการของคนไข้ผู้เข้ารับบริการ โดยศัลยแพทย์จะให้คำแนะนำที่เป็นไปได้และเข้ากับใบหน้า
- แจ้งให้ทราบถึงเทคนิคที่จะใช้ ขั้นตอนการผ่าตัด และระยะเวลา
- แจ้งวิธีการเตรียมตัว ขั้นตอนการผ่าตัด และการดูแล อย่างละเอียด
การทำตาสองชั้น ไม่ใช่เพียงแต่สามารถแก้ปัญหาได้ด้านความสวยงามอย่างที่หลายคนเข้าใจเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถแก้ปัญหาที่เรียกว่าภาวะ หรือโรคต่างๆของเปลือกตาได้ เพื่อไม่ให้ปัญหาที่เกิดส่งผลกระทบร้ายแรงภายหลังหากทิ้งไว้นาน ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถช่วยเสริมความมั่นใจและทำให้ใช้ชีวิตประจำวันต่างๆได้ง่ายมากขึ้น แต่งหน้าได้สวยและเสริมความมั่นใจได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เมื่อตัดสินใจจะทำตาสองชั้น ควรปรึกษาศัลยแพทย์ที่ผ่าการเข้าเคสทำตามอย่างหลากหลาย เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาดวงตาที่กังวลและต้องการแก้ปัญหาด้วยการทำตาสองชั้น เพื่อให้การตัดสินใจส่งผลลัพธ์ที่ดีและสวยงามอย่างที่ใจต้องการ