การทำจมูกแทบจะเป็นการศัลยกรรมที่ทุกคนต้องเคยทำหรือคิดจะทำแต่ยังลังเล อาจจะเพราะกลัวทำมาแล้วแย่ไปกว่าเดิม หรือเสพสื่อเกี่ยวกับการทำจมูกมากจนเกิดการกังวลนั่นเอง อันที่จริงความกังวลที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกคน แต่การหาข้อมูลและทำความเข้าใจถึงรายละเอียด ภาพรวมและผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้เข้าใจมากขึ้นและสามารถคลายความกลัวได้
วันนี้ APS Clinic จะพามาทำความเข้าใจ และคลายความสงสัยเกี่ยวกับการทำทำจมูกเทคนิค Mini Open กันหวังว่าใครก็ตามที่เข้ามาอ่าน จะสามารถคลายความกลัว และกังวลในการทำศัลยกรรมจมูกเทคนิค Mini Open ไม่มากก็น้อย
ทำจมูกเทคนิค Mini Open คืออะไร?
การทำจมูกมีหลายกหลายเทคนิคให้เลือกตามความต้องการ และปัญหาที่เกิดขึ้นกับจมูกของแต่ละคน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับการทำจมูกเทคนิค Mini Open กันทุกคน บางคนมีปัญหาไม่มาก และต้องการเพียงแค่แก้ไขปัญหาเพียงเท่านั้นก็สามารถทำเทคนิคเล็กๆที่ไม่ต้องเปิดแผลมากอย่างการทำจมูกเทคนิค Close หรือใครที่มีปัญหามากที่ต้องแก้ไขกันที่โครงสร้าง ก็จะเหมาะกับการทำเทคนิค Open เพื่อให้ศัลยแพทย์เห็นโครงสร้างชัดเจนและทำการแก้ปัญหาได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับการทำจมูกเทคนิค Mini Open จะเป็นเทคนิคที่อยู่กึ่งกลางระหว่างเทคนิค Close และ Open คือเป็นเทคนิคการทำจมูกที่เปิดแผลเล็กบริเวณใต้ฐานจมูก (columella) คล้ายการทำแบบ Open แต่แผลมีขนาดเล็กกว่า ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ชัดมากขึ้นกว่าแบบ Close ทำให้ ปรับแต่งกระดูกอ่อนและโครงสร้างได้ดีมากขึ้น โดยที่แผลผ่าตัดทำจมูกเทคนิค Mini Open จะมีขนาดเล็ก ทำให้ฟื้นตัวไว เหมาะแก่การแก้ปัญหาจมูกในระดับปานกลาง เนื่องจากหากต้องการแก้ปัญหาในระดับโครงสร้างอย่างทั่วถึงจริงๆการทำจมูกเทคนิค Mini Open ก็อาจจะยังไม่เหมาะนัก

ข้อดีของการทำจมูกเทคนิค Mini Open
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open สามารถปรับรูปทรงของจมูกได้มากกว่าเทคนิค Semi Open
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open เป็นการผ่าตัดขนาดเล็กใช้การฉีดยาชาช ไม่ต้องวางยาสลบ
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open สามารถทำร่วมกับการตอกฐานและตะไบฮัมพ์ได้
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open ใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open ให้ความแม่นยำในการทำมากกว่าการทำแบบปิดเนื่องจาก ศัลยแพทย์จะสามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ดีขึ้น
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open จะมีแผลขนาดเล็กทำให้ ลดการบวมช้ำและใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าแบบเปิดใช้เวลาในการฟื้นตัวไม่นาน
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open สามารถปรับโครงสร้างจมูกได้ละเอียดมากกว่าแบบ Close แต่ยังไม่ละเอียดเท่ากับเทคนิคโอเพ่นซี่โครง
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open เหมาะกับการทำจมูกทั้งเคสทำครั้งแรกและเคสแก้
ข้อจำกัดของการทำจมูกเทคนิค Mini Open
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open ไม่สามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open ไม่สามารถใช้กระดูก Septum มาแต่งปลายจมูกได้
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open ไม่สามารถลดขนาดของฐานจมูกให้เล็กลงได้
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open ไม่เหมาะกับผู้ที่เคยทำจมูกมาแล้วหลายครั้ง
ความแตกต่างของการทำจมูกทั้ง 3 เทคนิค Mini Open, Open และ Closed
เพื่อให้เข้าใจชัดเจนสามารถเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ดังนี้
- การทำจมูกแบบ Closed (เทคนิคปิด)
- เทคนิคนี้ไม่มีแผลด้านนอก
- ทำให้ฟื้นตัวไว
- ศัลยแพทย์ไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในได้ชัด ทำให้แก้ปัญหาเกี่ยวกับทรงจมูกได้ไม่มาก
- เหมาะกับการปรับรูปทรงเล็กน้อย หรือผู้ที่มีทรงจมูกสวยอยู่แล้วที่ต้องการเพิ่มความโด่ง
- เทคนิคนี้ไม่มีแผลด้านนอก
- การทำจมูกแบบ Open (เทคนิคเปิด)
- เทคนิคนี้ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณฐานจมูก เพื่อให้เห็นปัญหาอย่างชัดเจนและทำให้วิเคราะห์ปัญหาได้อย่างแม่นยำ
- เป็นเทคนิคที่สามารถทำร่วมกับการแก้ปัญหาจมูกปัญหาอื่นๆร่วมด้วยได้ เช่นการตอกฐานจมูก การตะไบฮัมพ์ หรือเย็บอินเทอร์โดมเป็นต้น
- เหมาะกับเคสที่มีปัญหาจมูกมาก เคสแก้จมูกจากการทำครั้งก่อน หรือปรับโครงสร้างจมูกเป็นต้น
- การทำจมูกแบบ Mini Open Rhinoplasty (เทคนิคมินิเปิด)
- เทคนิคนี้จะเปิดแผลเล็กกว่าการทำแบบ Open แต่เปิดมากกว่าการทำ Close
- ทำให้เห็นโครงสร้างได้ชัดเจนเพียงพอสำหรับการแก้ปัญหาที่ไม่มาก
- ทำให้มีแผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว ได้ผลลัพธ์แม่นยำ
เรียกได้ว่าการทำจมูกเทคนิค Mini Open นั้นนับเป็น ทางสายกลางที่สามารถตอบโจทย์ทั้งความสวยงาม การฟื้นตัวที่รวดเร็วหลังจากการทำ และยังไม่สร้างความระบมช้ำให้กับจมูกมากหลังทำอีกด้วย

การเตรียมตัวก่อนทำจมูกเทคนิค Mini Open
- การปรึกษาศัลยแพทย์อย่างละเอียด ประเมินโครงสร้างจมูกและรูปหน้า โดยรวม
แจ้งประวัติการรักษาโรคประจำตัว การใช้ยา อาหารเสริม หรือการแพ้ยา รวมทั้งพูดคุยถึงความคาดหวัง เพื่อให้ศัลยแพทย์วางแผนทรงจมูกที่เหมาะสมให้
- การตรวจสุขภาพเบื้องต้น ตรวจความดันโลหิต เบาหวาน หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด ในผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่ายหรือการแข็งตัวของเลือดช้า ควรแจ้งศัลยแพทย์ก่อนเสมอ
- งดการใช้ยาบางชนิดและอาหารเสริม เช่น ยาแอสไพริน, ยาต้านการแข็งตัวของเลือด, วิตามินอี, โสม, น้ำมันปลา อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด เพราะเสี่ยงทำให้เลือดออกมาก
- หยุดการดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ งดชาและกาแฟ 1–2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น
- พักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนผ่าตัด เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง หากศัลยแพทย์ให้งดน้ำและอาหาร ควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
- ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่สวมง่ายถอดง่ายเพื่อหลังจากการผ่าตัดจะได้ไม่รบกวนจมูก
ขั้นตอนการทำจมูกเทคนิค Mini Open
- เริ่มจากการเข้ามาพบศัลยแพทย์เพื่อทำการประเมินโครงสร้างจมูก แพทย์ตรวจสภาพจมูก และโครงสร้างเดิมรวมทั้งปัญหาต่างๆ
- วางแผนศัลยกรรมร่วมกันกับศัลยแพทย์ โดยการพูดคุยว่าจะใช้เทคนิคอะไรในการแก้ปัญหา รวมทั้งใช้วัสดุอะไรเช่น ใช้ซิลิโคน กระดูกอ่อนหลังหู หรือกระดูกอ่อนซี่โครง
- เตรียมตัวเองและสุขภาพให้มีความพร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัดทำจมูกเทคนิค Mini Open
- เตรียมความพร้อมด้วยการฉีดยาชาก่อนทำการทำจมูกเทคนิค Mini Open
- การเปิดแผลเล็กบริเวณฐานจมูก
ปรับแต่งโครงสร้างภายในตามที่การทำจมูกเทคนิค Mini Open จะสามารถทำได้ - เย็บปิดซ่อนแผล
การดูแลหลังทำจมูกเทคนิค Mini Open
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open ประคบเย็นใน 48 ชั่วโมงแรกอย่างเคร่งครัดเพื่อลดบวม
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open หลีกเลี่ยงการก้มต่ำ ยกของหนัก หรือออกกำลังกาย 2–3 สัปดาห์แรก
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open ทำความสะอาดแผลอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของศัลยแพทย์เพื่อเป็นการดูแลความสะอาด
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open ให้นอนยกศีรษะสูงให้ศีรษะอยู่เหนือหัวใจ เพื่อช่วยลดอาการบวม
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open ไม่ควรรับประทานของแสลงต่างๆให้รับประทานอาหารอ่อนๆ
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open หากต้องการสระผมให้สระที่ร้านเพื่อป้องกันแผลโดนน้ำ
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open ควรรับประทานยาตามที่ศัลยแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผล
- หลังทำจมูกเทคนิค Mini Open งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 เดือน

ใครเหมาะสมกับการทำจมูกเทคนิค Mini Open
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ ปรับแต่งปลายจมูกให้เรียวขึ้น ดูละมุน เข้ากับรูปหน้า ไม่โดดเด่นจนเกินไป มีผลลัพธ์ใกล้เคียงกับโครงสร้างเดิม แต่เพิ่มความคมชัดให้สวยงามขึ้น
- ผู้ที่มีโครงสร้างจมูกเดิมที่ดีแล้วพอสมควร ไม่มีปัญหาโครงสร้างที่ซับซ้อนเช่น มี สันจมูกอยู่แล้ว แต่ต้องการเพียงปรับแต่งให้โด่งและเรียวขึ้น หรือผู้ที่มีฐานจมูกดี ไม่ต้องแก้โครงสร้างใหญ่ เพียงแค่ปรับปลายให้ละมุนขึ้น
- ผู้ที่ยังไม่เคยทำจมูกมาก่อน และต้องการเสริมจมูกแบบที่ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ
- ผู้ที่ต้องการฟื้นตัวไว ไม่มีเวลาพักฟื้นนาน เช่น ทำงานประจำ ต้องออกสังคมเร็ว
ทำจมูกเทคนิค Mini Open มีแผลเล็ก ลดการบวมช้ำ ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าเทคนิคเปิดแบบเต็ม - ผู้ที่ไม่ต้องการดมยาสลบ
- ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปโครงสร้างจมูกโตเต็มที่แล้ว และมีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวรุนแรง เช่น โรคเลือด โรคหัวใจ หรือโรคที่มีผลต่อการสมานแผลเหมาะแก่การทำจมูกเทคนิค Mini Open
ใครที่ไม่เหมาะกับการทำจมูกเทคนิค Mini Open
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประเภทผู้ที่มี โรคเรื้อรังที่ควบคุมไม่ได้ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ รวมทั้งโรคเกี่ยวกับระบบเลือด เช่น โรคเลือดออกง่ายหรือแข็งตัวช้า
- ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์ที่เป็นไปได้ยากที่ไม่เหมาะกับการทำจมูกเทคนิค Mini Open เช่น ต้องการรูปทรงจมูกที่แตกต่างไปจากเดิม หรือต้องการเหมือนแบบที่นำมาให้แพทย์เป็นตัวอย่างเป๊ะๆ
- ผู้ที่ไม่สามารถดูแลตนเองหลังผ่าตัดได้ เช่นไม่มีเวลาในการพักฟื้น หรือไม่สามารถหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่างๆที่ห้ามหลังการทำจมูกเทคนิค Mini Open
- ผู้ที่มีจมูกบางประเภทที่เหมาะกับการใช้เทคนิคอื่นในการทำจมูกมากกว่าเช่น เนื้อจมูกบางมาก หรือโครงสร้างอ่อนเกินไป อาจต้องใช้เทคนิค Open เพื่อปรับโครงสร้างชัดเจนกว่า หรือผู้ที่เคยผ่าตัดทำจมูกมาแล้วหลายครั้งจนมี พังผืดเกาะ ทำให้โครงสร้างเสียหายและซับซ้อนการทำเทคนิค Mini Openอาจไม่เพียงพอ
- ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือจมูกยังเจริญไม่เต็มที่แนะนำให้ทำศัลยกรรมจมูกเมื่ออายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะโครงสร้างกระดูกและกระดูกอ่อนยังคงเจริญอยู่ หากทำเร็วเกินไปอาจมีผลต่อรูปร่างในอนาคต
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำจมูกเทคนิค Mini Open
- การทำจมูกเทคนิค Mini Open ให้ผลลัพธ์ด้านรูปทรงจมูกที่แลดูเป็นธรรมชาติ เข้ากับรูปหน้า
- ทำจมูกเทคนิค Mini Open ลดโอกาสเบี้ยว เอียง หรือจมูกทะลุ
- ทำจมูกเทคนิค Mini Open มีรอยแผลเล็ก แทบมองไม่เห็น
- ทำจมูกเทคนิค Mini Open ฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ในเวลาไม่นาน
ความเสี่ยงและข้อควรระวังจากการทำจมูกเทคนิค Mini Open
ทุกการทำศัลยกรรมจะมีความเสี่ยงร่วมด้วยเสมอเพียงแต่เป็นสิ่งที่ควรรับรู้และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นเพียงเท่านั้น
- มีโอกาสบวมช้ำมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้
- แผลจะเกิดการติดเชื้อได้ หากดูแลความสะอาดได้ไม่ดีหรือดูแลไม่ถูกวิธี
- ผลลัพธ์ไม่ตรงตามความคาดหวัง หากไม่ได้แจ้งความต้องการแก่ศัลยแพทย์อย่างละเอียด
ผลกระทบหากทำจมูกเทคนิค Mini Open ก่อนอายุครบ 18 ปี
เหตุผลที่ศัลยแพทย์อยากให้มีอายุถึง 18 ปีก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรม
1. โครงสร้างจมูกยังเจริญไม่เต็มที่
- กระดูกและกระดูกอ่อนบริเวณจมูกจะยังไม่โตเต็มวัย ยังพัฒนาไปจนถึงช่วงอายุประมาณ 18–20 ปี หากทำการผ่าตัดเร็วเกินไป อาจทำให้การเจริญเติบโตผิดรูป เช่น จมูกบิด เบี้ยว หรือสั้นกว่าที่ควร
2.ผลลัพธ์ที่ได้อาจเปลี่ยนแปลงไปเมื่ออายุมากขึ้นและโครงสร้างต่างๆโตเต็มที่
- แม้จะได้รูปทรงที่สวยงามหลังทำในช่วงวัยที่ทำศัลยกรรม แต่เมื่อร่างกายเจริญเติบโตต่อไป โครงสร้างต่างๆที่โตขึ้น อาจเปลี่ยนแปลงจนทำให้ทรงจมูก ไม่สมดุลกับใบหน้า
3.มีความเสี่ยงในการผ่าตัดสูงกว่า
- ผู้ที่อายุน้อยกว่ามักมี ความหนาของผิวหนังและเนื้อเยื่อยังไม่คงที่ ทำให้ศัลยแพทย์ประเมินผลลัพธ์ได้ยากขึ้น
4.ด้านจิตใจและการตัดสินใจ
- ผู้ที่มีอายุไม่ถึง 18 ปีมักมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และความคิดอย่างรวดเร็ว บางครั้งตัดสินใจทำเพราะ แรงกดดันจากเพื่อนหรือความต้องการจากสังคม ไม่ใช่ความต้องการของตัวเอง อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางความคิดและความต้องการในอนาคตได้
5.อาจทำได้หากปัญหาเกี่ยวกับจมูกที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาจริงที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต
- หากมีปัญหาจมูกที่ส่งผลต่อการหายใจหรือการใช้ชีวิต เช่น ผนังกั้นจมูกคดรุนแรง ศัลยแพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดเป็นพิเศษเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อความสวยงาม
ดังนั้น การเลือกศัลยแพทย์เฉพาะทาง ที่สามารถพูดคุยได้อย่างเข้าใจ และคลินิกที่ดีมีมาตรฐานเป็นเรื่องดีที่สุดที่จะเข้ารับบริการทำจมูกเทคนิค Mini Open
การทำจมูกเทคนิค Mini Open ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการทำจมูก ได้ผลลัพธ์ที่เป็นแลดูธรรมชาติ ไม่มีผลข้างเคียงแทรกซ้อน และฟื้นตัวไว ด้วยการผสมผสานข้อดีของการเสริมจมูกเทคนิคเปิดและเทคนิคปิดเข้าด้วยกัน เกิดการเสริมจมูกเทคนิค Mini Open ที่มีความพอดีและพอประมาณเกิดขึ้น
หากคุณกำลังพิจารณาการทำจมูก การทำจมูกเทคนิค Mini Open อาจเป็นคำตอบดีแต่สิ่งสำคัญที่สุดคือในการทำศัลยกรรมทุกชนิดที่ควรคำนึงถึงเลยคือ การปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนให้เหมาะสมกับโครงสร้างจมูกรวมทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นและต้องการแก้ไขโดยเฉพาะ

