ทำจมูกเทคนิคปิด (Closed Rhinoplasty) เทคนิคเสริมจมูกยอดนิยมที่ทำกันมานาน

ทำจมูกเทคนิคปิด (Closed Rhinoplasty) เทคนิคเสริมจมูกยอดนิยมที่ทำกันมานาน

การทำศัลยกรรมเสริมจมูก ถือเป็นการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมาหลายสิบปี และยังถูกจัดว่าเป็นศัลยกรรมยอดนิยมที่ใครได้ทำจะเรียกได้ว่าสวยขึ้นทุกราย เพราะจมูกคือจุดศูนย์กลางของใบหน้า เทคนิคต่างๆในการศัลยกรรมเสริมจมูกจึงถูกพัฒนาขึ้นแทบทุกปีจากที่ไม่ได้เสริมอะไรมาก จนปัจจุบันมีการใช้เทคนิคมากมาย ร่วมกันกับอุปกรณ์เสริมเพื่อแก้ปัญหาโครงสร้างจมูกเดิมได้ดีมากย่ิงขึ้น

แต่ถึงแม้จะมีเทคนิคเสริมจมูกเกิดขึ้นมาแล้วหลากหลายเทคนิคก็ตาม แต่เทคนิคดั้งเดิม ที่เป็นเทคนิคเริ่มต้น หรือจะเรียกว่าเป็นจมูกแท่งแรกของหลายๆคนที่เสริมจมูก ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องไม่มีตก นั่นคือการทำจมูกเทคนิคปิด หรือ (Closed Rhinoplasty) นั่นเอง โดยการทำจมูกเทคนิคปิด นับเป็นสารตั้งต้นของการทำศัลยกรรมเสริมจมูกเลยก็ว่าได้ เพราะคนเชื่อกันว่าให้ผลลัพธ์ที่เข้ากับใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีแผลเป็นที่อยู่ภายนอก ใช้เวลาพักฟื้นที่สั้น จึงเป็นที่นิยมมากในหมู่นักศึกษา หรือพนักงานออฟฟิตที่ไม่มีเวลาที่จะพักฟื้น เรามาทำความรู้จักการทำจมูกแบบปิดแบบเจาะลึกกันได้ในบทความนี้

 

การทำจมูกเทคนิคปิด คืออะไร?

การทำจมูกเทคนิคปิด (Closed Rhinoplasty) คือการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูก ชนิดหนึ่งที่แพทย์ไม่ได้ทำการผ่าตัดหรือเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เพราะการทำจมูกเทคนิคปิดนี้จะไม่สามารถเปิดให้เห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด จึงไม่สามารถแก้โครงสร้างภายในจมูกได้ แต่ความโดดเด่นของเทคนิคนี้ก็คือ ศัลยแพทย์จะทำการซ่อนแผลในการผ่าตัดไว้ภายในรูจมูกทั้งหมด โดยวิธีการผ่าตัดก็คือศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลด้านใดด้านหนึ่ง แล้วทำการใส่ซิลิโคนจมูกในรูปทรงที่ต้องการเข้าไปและทำการเย็บปิดเข้าที่เดิม 

เมื่อแผลผ่าตัดทำจมูกอยู่ภายในรูจมูกทั้งหมด จึงทำให้การทำจมูกเทคนิคปิดนั้นมองไม่เห็น รอยแผลเป็น จากภายนอกแม้แต่นิดเดียว ซึ่งนี่นับเป็นจุดเด่นของการทำจมูกเทคนิคปิด ทำให้คนไข้ผู้เข้ารับบริการเลือกทำจมูกด้วยเทคนิคนี้มั่นใจได้ว่า หลังแผลหายทั้งหมดจะไม่มีรอยแผลเป็นให้เห็นภายนอกหลังจากที่จมูกเข้าที่แล้ว

 

ขั้นการผ่าตัดทำจมูกเทคนิคปิด มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

สำหรับใครที่มีความกังวลและต้องการจัดสรรเวลาในการทำจมูกเทคนิคปิด สามารถกะเวลาในการทำได้คร่าวๆทั่วไปประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น อาจมีบวกหรือลบเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของปัญหาจมูกของคนไข้ผู้เข้ารับบริการ

โดยมีขั้นตอนหลักๆ ในการทำดังนี้

  • ขั้นตอนการปรึกษาและวางแผนก่อนทำศัลยกรรมทำจมูกเทคนิคปิด

จะต้องเข้าปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทางเพื่อประเมินโครงสร้างจมูกเดิม และพูดคุยถึงความต้องการ รวมทั้งเลือก ทรงจมูก ที่อยากได้และมีความเป็นไปได้ร่วมด้วย โดยศัลยแพทย์จะวิเคราะห์จากความหนาของผิวหนัง, โครงสร้างกระดูกและกระดูกอ่อนจมูกเดิม รวมถึงความเหมาะสมกับใบหน้าขอคนไข้ผู้เข้ารับบริการ

 

ให้ยาการระงับความรู้สึกเพื่อลดความกังวลและความเจ็บ

ศัลยแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายและไม่รู้สึกเจ็บ และลดความกังวลตลอดการผ่าตัด 

 

ผ่าตัดเปิดแผล

ศัลยแพทย์จะกรีดเปิดแผลขนาดเล็กภายในรูจมูก โดยการทำจมูกเทคนิคปิดจะทำการกรีดเพียงข้างเดียว ค่อย ๆ เลาะเนื้อเยื่อและผิวหนังออกจากโครงสร้างกระดูกและกระดูกอ่อน เพื่อให้เกิดพื้นที่สำหรับสอด ซิลิโคนในการเสริมจมูกข้าไป

 

ใส่ซิลิโคน

ทำการปรับแต่งรูปทรงจมูก ตามที่วางแผนไว้ร่วมกันกับคนไข้ผู้เข้ารับบริการ

 

การเย็บปิดแผล

 เมื่อได้รูปทรงจมูก ที่ต้องการแล้ว ศัลยแพทย์จะทำการเย็บปิดแผลด้วยไหม อาจจะเป็นไหมธรรมดา หรือ

การทำจมูกเทคนิคปิด ศัลยแพทย์จะมองเห็นโครงสร้างจมูกผ่านการเปิดแผลในขนาดที่จำกัด ทำให้ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของศัลยแพทย์เป็นอย่างมากจึงได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีและเป็นไปตามความต้องการ

ข้อดี และข้อจำกัดของทำจมูกเทคนิคปิด
ข้อดี และข้อจำกัดของทำจมูกเทคนิคปิด

ข้อดี และข้อจำกัดของทำจมูกเทคนิคปิด

ทุกการกระทำมีทั้งข้อดีและข้อเสียเป็นเรื่องปกติ หากศึกษาและหาข้อมูลก่อนเพื่อเตรียมตัวและตัดสินใจ จะทำให้ไม่รู้สึกแย่หากมีผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ

 

ข้อดีของการทำจมูกเทคนิคปิด 

  • เป็นการทำจมูกที่ไม่มีแผลเป็นภายนอก (No visible scar)

เนื่องจากแผลจากการผ่าตัดทั้งหมดจะถูกซ่อนเอาไว้ภายในรูจมูก ทำให้หลังการผ่าตัดไม่มีรอยแผลเป็นให้เห็นภายนอก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมาก และไม่ได้อยากให้ใครรู้ว่าทำศัลยกรรมมา

  • ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นสั้น (Faster recovery)

การทำจมูกเทคนิคปิดเป็นเทคนิคที่ทำให้เนื้อเยื่อและโครงสร้างจมูกถูกการรบกวนน้อยกว่าการทำเทคนิคอื่นๆ จึงทำให้การพักฟื้นสั้นกว่าเทคนิคอื่นๆ  อาการบวมช้ำหลังทำศัลยกรรมก็จะลดลงอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกันอีกทั้งการทำจมูกเทคนิคปิดทำให้คนไข้ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วกว่าเทคนิคอื่นๆด้วย

  • มีอาการบวมช้ำน้อย(Less swelling and bruising)

ด้วยกระบวนการผ่าตัดที่ไม่มาก และไม่ซับซ้อนจึงทำให้เนื้อเยื่อได้รับความเสียหายน้อย จึงทำให้มีอาการบวมและรอยช้ำที่เกิดจากการผ่าตัดน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด

  • ใช้เวลาผ่าตัดสั้น (Shorter operating time)

การทำจมูกเทคนิคปิดมีกระบวนการไม่มาก จึงทำให้การผ่าตัดใช้เวลาสั้นกว่าเทคนิคอื่น จึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากการใช้ยาระงับความรู้สึกต่างๆ ด้วย

  • โครงสร้างจมูกได้รับผลกระทบน้อย (Less disruption to nasal structure)

เนื่องจากการทำจมูกเทคนิคปิดเป็นวิธีที่เปลี่ยนโครงสร้างจมูกน้อยที่สุด จึงทำให้โครงสร้างที่ค้ำจุนปลายจมูก (columellar support) และส่วนอื่นๆยังคงอยู่ตามเดิมหากไม่ได้ทำร่วมกับการแก้ปัญหาโครงสร้าง ทำให้ปลายจมูกไม่หย่อนคล้อยในระยะยาวเหมาะสำหรับผู้ที่มีความคิดจะถอดซิลิโคนออกเมื่อมีอายุมาก

 

ข้อจำกัดและข้อควรพิจารณาของการทำจมูกเทคนิคปิด

  • การเลือกศัลยแพทย์

การทำจมูกเทคนิคปิดเหมือนเป็นวิธีการศัยกรรมที่ดูง่าย แต่ในความจริงแล้วมีความยากในตัวเองค่อนข้างสูง เนื่องจากเมื่อต้องทำการเปิดแผลน้อยจะทำให้ศัลยแพทย์ไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างของกระดูกและกระดูกอ่อนทั้งหมดภายในจมูกได้อย่างชัดเจน ทำให้การปรับแต่งด้วยเทคนิคปิดมีความยาก

 

  •  ไม่เหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหาจมูกซับซ้อน (Not suitable for complex cases)

ทำจมูกเทคนิคปิดเป็นเทคนิคที่ไม่เหมาะสำหรับคนไข้ผู้เข้ารับบริการที่ต้องแก้ไขโครงสร้างของจมูกอย่างหนัก เช่น ในผู้ที่ต้องการแก้ฐานจมูกใหญ่ , ผู้ที่ต้องการเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนจากส่วนอื่นของร่างกาย, การแก้ไขภาวะผนังกั้นจมูกคด (Deviated Septum) หรือการสร้างโครงสร้่างของจมูกใหม่ทั้งหมด การทำจมูกเทคนิคปิดจะไม่สามารถทำได้เนื่องจากศัลยแพทย์จะไม่สามารถมองเห็นโครงสร้างจมูกได้มากนัก

 

  • การปรับแต่งปลายจมูก (Limited tip refinement)

หากคนไข้ผู้เข้ารับบริการต้องการปรับแต่งรูปทรงปลายจมูกให้เรียวเล็กหรือโด่งกว่าจมูกเดิมอย่างมาก การทำจมูกเทคนิคปิด จะไม่สามารถทำได้อย่างที่ต้องการ เนื่องจากข้อจำกัดของการผ่าตัด

ใครเหมาะกับการทำจมูกเทคนิคปิด
ใครเหมาะกับการทำจมูกเทคนิคปิด

การทำจมูกเทคนิคปิดเหมาะสำหรับคนไข้ผู้เข้ารับบริการที่มีลักษณะดังนี้

  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มเพียงแค่ความโด่งของสันจมูก
  • ผู้ที่มีโครงสร้างจมูกเดิมค่อนข้างดีและสวยอยู่แล้ว 
  • ผู้ที่มีปัญหาจมูกเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง
  • ผู้ที่ต้องการได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติไม่แปลกไม่ปลอม
  • ผู้ที่เพิ่งทำจมูกเป็นครั้งแรก 
  • ผู้ที่มีเวลาในการพักฟื้นน้อย
  • ผู้ที่มีงบประมาณในการทำจมูกไม่มาก
  • ผู้ที่ไม่ต้องการให้ใครดูออกว่าไปทำศัลยกรรมมา
  • ผู้ที่ไม่ได้ต้องการเสริมจมูกให้โด่ง หรือสูงพุ่งมากนัก
  • ผู้ที่ไม่ต้องการมีรอยแผลจากการผ่าตัดบนใบหน้า

 

ใครที่ไม่เหมาะกับการทำจมูกเทคนิคปิด

  • ผู้ที่ต้องการแก้จมูกเนื่องจากโครงสร้างจมูกมีปัญหาที่ซับซ้อน
  • ผู้ที่มีปลายจมูกใหญ่มาก 
  • ผู้ที่ต้องการลดขนาดปีกจมูก (Alar Reduction) ควบคู่กับการเสริมจมูก
  • ผู้ที่มีภาวะผนังกั้นจมูกคด หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ
  • ผู้ที่ต้องการปรับโครงสร้างจมูกมากมาย เช่น การยืดปลายจมูกให้ยาวขึ้น
  • ผู้ที่มีเนื้อจมูกบาง
  • ผู้ที่ต้องการเสริมจมูกร่วมกับใช้วัสดุอื่นๆเสริม
  • ผู้ที่มีฮัมพ์ หรือมีฐานจมูกกว้าง
  • ผู้ที่ต้องการเสริมจมูกทรงปลายเชิด
  • ผู้ที่ต้องการเสริมจมูกให้โด่งมากๆ

 

การเตรียมตัวและการดูแล 

การเตรียมตัวก่อนทำจมูกเทคนิคปิดที่ดีจะช่วยให้การผ่าตัดรวมทั้งการพักฟื้น เป็นไปได้ด้วยดีพร้อมกันกับให้ผลลัพธ์ที่ดี

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดทำจมูกเทคนิคปิด (Pre-operative care)
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดทำจมูกเทคนิคปิด (Pre-operative care)

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดทำจมูกเทคนิคปิด (Pre-operative care)

  1. งดยาและอาหารเสริมอาทิ ยาละลายลิ่มเลือด ยาแก้ปวด Aspirin, Warfarin รวมทั้งวิตามินหรืออาหารเสริมอย่าง  Vitamin E, Fish Oil,แปะก๊วย อย่างน้อย 7-14 วันก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  2. ควรงดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 2 สัปดาห์ก่อนและหลังผ่าตัดเป็นอย่างน้อย เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่นั้นมีผลต่อการไหลเวียนโลหิตและการสมานแผลหลังการผ่าตัด
  3. แจ้งประวัติให้ศัลแพทย์ทราบว่ามีโรคประจำตัว, ยาที่ทานประจำ, และประวัติการแพ้ยาอะไรบ้าง เพื่อการวางแผนการทำศัลยกรรมที่ปลอดภัย
  4. พักผ่อนให้เพียงพอโดยการนอนหลับให้เต็มที่ก่อนวันผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดทำจมูกเทคนิคปิด (Post-operative care and recovery)
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดทำจมูกเทคนิคปิด (Post-operative care and recovery)

การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดทำจมูกเทคนิคปิด (Post-operative care and recovery)

หลังทำจมูกช่วง 1-7 วันแรก

  • ให้ประคบเย็นบริเวณรอบดวงตาและแก้มในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการบวมและช้ำหลังทำศัลยกรรม
  • ควรนอนในท่าศีรษะสูงกว่าลำตัวโดยหารหนุนหมอนสูง เพื่อลดอาการบวม
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก, การยกของหนัก, และกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดแรงกระแทกบริเวณใบหน้า 
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลยแพทย์อย่างเคร่งครัดในด้านการทำความสะอาดแผลภายในจมูก
  • รับประทานยาดตามที่ศัลยแพทย์จัดให้อย่างเคร่งครัด
  • ห้ามสัมผัส, กด, หรือแคะจมูกโดยเด็ดขาด ในช่วงแรกเพื่อป้องกันการติดเชื้อและเพื่อการสมานแผลที่ดี
  • ทำงานได้แต่ต้องระวังจมูก

 

หลังทำจมูกช่วง 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน

  • อาการบวมและรอยช้ำหลังจากการศัลยกรรมจะค่อย ๆ หายไปอย่างเห็นได้ชัด
  • ควรหลีกเลี่ยงการใส่แว่นตาที่มีความหนักจมูก เพื่อป้องกันการกดทับจมูก
  • สามารถทำกิจกรรมชีวิตประจำวันเบาๆ ได้ตามปกติ

 

หลังทำจมูกช่วง 3-6 เดือน

  • อาการบวมลดลงจนเกือบหมดทรงจมูก จะเริ่มเห็นทรงจมูกที่ชัดขึ้นและเข้าที่และเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

ช่วง 1 ปีขึ้นไป

  • จมูกจะเข้าที่อย่างสมบูรณ์ แต่การใช้ชีวิตประจำวันก็ยังคงต้องระวังเนื่องจากจมูกไม่ใช่จมูกจริง 

 

การเลือกคลินิกและศัลยแพทย์ในการทำจมูกเทคนิคปิด 

  1. เลือกศัลยแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้องควรเป็นศัลยแพทย์เฉพาะทางเพื่อให้ผลลัพธ์หลังทำดีที่สุด
  2. มีภาพผลงานก่อน หลังทำ ให้ดูเพื่อดูว่าสไตล์การทำจมูกของศัลยแพทย์ตรงกับความต้องการหรือไม่ และพิจารณาภาพให้ดีว่าเป็นภาพจริงหรือภาพที่มาจากการตกแต่ง ควรดู VDO หลังทำประกอบ
  3. ศึกษาหาข้อมูลจากผู้ใช้บริการจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
  4. เลือกคลินิกที่มีมาตรฐานด้านความสะอาด, มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย, และมีทีมงานที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
  5. สอบถามราคาทำจมูก ให้ละเอียดและครบถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง

อย่าลืมว่าการปรึกษาแพทย์หลายๆ ท่านก่อนตัดสินใจ จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่หลากหลายและมั่นใจในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น

 

การเปรียบเทียบการทำจมูกเทคนิคปิด กับ เทคนิคเปิด (Closed vs. Open Rhinoplasty)

เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำจมูกทั้งสองเทคนิค และเพื่อประกอบการสินใจก่อนทำศัลยกรรมได้ดียิ่งขึ้นว่าเทคนิคใดเหมาะสมจมูกเดิมของเรา 

  • ความแตกต่างด้านรอยแผล (Incisions & Scars)

การทำจมูกเทคนิคปิด ศัลยแพทย์จะทำการกรีดแผลผ่าตัดทั้งหมดไว้ภายในรูจมูก ทำให้ หลังการทำจมูกเทคนิคปิดจะ ไม่มีรอยแผลเป็นภายนอก ซึ่งเป็นข้อดีของเทคนิคนี้โดยเฉพาะ ที่ทำให้หลายคนชอบเพราะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตระจำวันหลังการทำจมูก

การทำจมูกเทคนิคเปิด ศัลยแพทย์จะทำการกรีดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก (columella) เพื่อเปิดให้เห็นโครงสร้างของจมูกทั้งหมด จะทำให้มีรอยแผลเป็นเล็กๆ บริเวณฐานหรือปีกจมูกที่อยู่ภายนอก แต่เมื่อเวลาผ่านไปแผลเป็นนี้จะค่อยๆจางลงจนอาจจะมองไม่เห็นหากไม่สังเกตุ แต่ก็ยังคงเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนเกิดความกังวล

 

  • ความแตกต่างด้านระยะเวลาพักฟื้นและอาการบวมช้ำ (Recovery Time & Swelling)

การทำจมูกเทคนิคปิด เป็นเทคนิคที่เกิดการรบกวนเนื้อเยื่อและโครงสร้างภายในจมูกน้อย จึงส่งผลให้มีอาการบวมช้ำและฟกช้ำหลังผ่าตัดน้อยอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หลังเข้ารับการทำจมูกเทคนิคปิดสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างรวดเร็ว 

การทำจมูกเทคนิคเปิด เป็นเทคนิคที่ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลภายในรูจมูกทั้งสองด้านเพื่อให้เห็นโครงสร้างจมูกให้ได้มากที่สุด เพื่อการแก้ปัญหาโครงสร้างจมูกอย่างตรงจุด แต่ด้วยการเปิดฐานจมูกเพื่อให้เห็นได้อย่างทั่วถึงนี่เอง ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณจมูกได้รับความเสียหายและบอบช้ำเป็นอย่างมากจึงทำให้แผลหายช้า และต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นเป็นเวลานาน

 

  • ความแตกต่างด้านทัศนวิสัยและการปรับแต่งของแพทย์ (Surgeon’s Visibility & Customization)

 

การทำจมูกเทคนิคปิด ศัลยแพทย์จะต้องทำการเสริมซิลิโคนผ่านช่องว่างภายในรูจมูกเพียงรูเล็กๆ ทำให้มองเห็นโครงสร้างกระดูกและกระดูกอ่อนได้จำกัด จึงทำให้ไม่สามารถปรับแต่งจมูกได้มาก

การทำจมูกเทคนิคเปิด ศัลยแพทย์จะยกผิวหนังจมูกขึ้นเพื่อมองเห็นโครงสร้างกระดูกและกระดูกอ่อนได้ทั้งหมด จึงทำให้สามารถปรับแต่งได้ทุกส่วนของจมูกอย่างละเอียด ทำให้แก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขผนังกั้นจมูกคด, การ แก้จมูก, หรือการใช้กระดูกอ่อนจากส่วนอื่นของร่างกายเพื่อสร้างปลายจมูกให้พุ่งขึ้นได้ สามารถแจ้งศัลยแพทย์เพื่อออกแบบการรักษาให้เป็นไปตามที่ต้องการได้เลย เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่มีข้อจำกัดในด้านรูปทรงจมูก

 

  • ความแตกต่างด้านราคา (Price)

ราคาทำจมูกเทคนิคปิดมักจะมีราคาที่ถูกกว่าเทคนิคเปิดเล็กน้อย เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาผ่าตัดสั้นกว่า และมีขั้นตอนที่ซับซ้อนน้อยกว่านั่นเองทั้งนี้ ราคาอาจแตกต่างกันไปตามชื่อเสียงของ ศัลยแพทย์, วัสดุที่ใช้, และชื่อเสียงของ คลินิกทำจมูก นั้นๆ

 

การทำจมูกเทคนิคปิด นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความโด่งของจมูก, ปรับรูปทรงให้ดูสมส่วน,ไม่ต้องการมีรอยแผลเป็นภายนอก ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและใช่ระยะเวลาในการ พักฟื้น ที่สั้น ทั้งนี้การทำความเข้าใจว่าการทำจมูกเทคนิคปิดนั้นมีข้อจำกัดในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่ซับซ้อน เช่นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างจมูกเดิม หรือต้องการ แก้จมูก จากการศัลยกรรมมาแล้วไม่เป็นที่น่าพึงพอใจการเลือกใช้เทคนิคเปิดอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า จึงทำให้ก่อนการตัดสินใจทำศัลยกรรมทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นศัลยกรรมอะไรก็ตามจึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อดูความเป็นไปได้ก่อนการตัดสินใจ ศัลยแพทย์ที่ดีจะสามารถวางแผนการผ่าตัดและเลือดเทคนิคการผ่าตัดที่ดีและเหมาะสมกับปัญหาที่แท้จริงได้อย่างแน่นอน

» Switch Languages